เงียบหายไปใยกลีบเมฆเลยสำหรับ BlackBerry PlayBook ที่สู้อุตส่าห์สร้างกระแสให้เป็นที่นิยม แต่มาวันนี้โดน iPad2 และ Android Tablet อย่าง Galaxy Tab II และ Motorola Xoom กลบกระแสไปซะจนแทบไม่มีใครพูดถึง แต่ล่าสุดทาง RIM ได้ประกาศวันวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาอย่างเป็นทางการ คือในวันที่ 19 เมษายนนี้

แถมออกมาคราวนี้ BlackBerry PlayBook Tablet มีการปรับปรุงในเรื่องของ Product Line ให้มีความหลากหลายมายิ่งขึ้น โดยออกมาทั้งรุ่น Wi-Fi และ 4G รวมทั้งมีขนาดความจุให้เลือกแตกต่างกันไป ซึ่งน่าจะมองเห็นจากความสำเร็จของ iPad ก็เป็นได้…

โดยราคาตามขนาดของหน่วยความจำมีดังนี้

  • 16GB ขายอยู่ที่ราคา 499 เหรียญสหรัฐ (ราว 15,000 บาท)
  • 32GB ขายอยู่ที่ราคา?599?เหรียญสหรัฐ (ราว 18,000 บาท)
  • 64GB ขายอยู่ที่ราคา?699?เหรียญสหรัฐ (ราว 21,000 บาท)

ในไลน์ของการเชื่อมต่อนอกจากจะแบ่งเป็นรุ่นที่มีแต่การใช้งาน Wi-Fi หรือรุ่นที่มีทั้งสัญญาณโทรศัพท์พร้อม Wi-Fi แล้ว ยังมีการให้เลือกรูปแบบของสัญญาณโทรศัพท์ว่า 4G ของคุณเป็นเครือข่ายแบบใด ระหว่าง WiMax, LTE หรือ HSPA เป็นต้น

  • BlackBerry PlayBook ที่มาพร้อมกับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n
  • BlackBerry 4G PlayBook ที่มาพร้อมกับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n + WiMax
  • BlackBerry 4G PlayBook ที่มาพร้อมกับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n + LTE
  • BlackBerry 4G PlayBook ที่มาพร้อมกับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n + HSPA

ส่วนสเป็คคร่าวๆ ของ BlackBerry PlayBook Tablet ดังนี้เลยครับ:-

  • หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัส LCD ขนาด 7 นิ้ว (ความละเอียดแบบ WSVGA 1024?600 พิกเซล)
  • ตัวเครื่องขนาด 5.1 x 7.6 x 0.4 นิ้ว หรือ 130 x 194 x 10 มม.
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 0.9 ปอนด์ หรือราว 425 กรัม
  • หน่วยประมวลความเร็ว 1 GHz แบบ dual-core processor
  • ระบบการทำงาน Symmetric multiprocessing
  • หน่วยความจำแบบ RAM นา1GB
  • ใช้ระบบปฏิบัติการเป็น BlackBerry Tablet OS
  • รองรับการใช้งาน Flash 10.1 และรองรับเทคโนโลยี HTML 5
  • รองรับไฟล์เสียงรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น MP3, AAC และ WMA รวมถึงการเล่นไฟล์วิดีโออย่าง H.264, MPEG4 และ WMV
  • ต่อออกจากภาพรองรับได้สูงสุดระดับ 1080p ผ่านสาย HDMI
  • กล้องหน้าหลัง โดยตัวหลังสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความระเอียดระดับ 1080p HD และถ่ายภาพนิ่ง กล้องหลังได้ 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลังได้ 3 ล้านพิกเซล
  • มี GPS เซนเซอร์แบบ accelerometer/gyroscope รวมทั้งมีเข็มทิศดิจิตอล
  • ลำโพงแบบ Stereo และมีไมโครโฟน
  • รองรับการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi 802.11 มาตรฐาน a/b/g/n
  • เชื่อมต่อผ่านสาย Micro USB และ Micro HDMI สามารถต่ออกจากภาพได้
  • เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth เวอร์ชัน 2.1 และรองรับเทคโนโลยี EDR

คงต้องรอดูว่าพอเข้ามาเมืองไทย คนจะยังตอบรับการเข้ามาของ RIM ได้ดีอยู่เหมือนตอนช่วงปลายปีก่อนได้หรือไม่ หรือกระแส BlackBerry ที่ดูว่าเริ่มจะซาลงไป จะทำให้ RIM ไม่ฟื้นอีกเลย คงต้องรอติดตามกันต่อไปครับ…

ที่มา: ZDNet

10 years experience in telecommunication business, specialize in customer experience management and call center operation. Rungroj also passionate about how social technologies shape human interaction via social media. He is a co-author of "Marketing 2.0 and 2.1 - Social Media Marketing" and author of many best-selling mobile phone guidebook in Thailand.