กลายเป็นข่าวใหญ่ในวันเริ่มต้นของสัปดาห์ทันที เมื่อ Facebook ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้เข้าซื้อกิจการของ Instagram – แอพแชร์รูปสุดฮิตที่ดังไปทั่วโลกไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ได้มีการออกมายืนยันจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยทาง Facebook มีการเขียนประกาศอย่างเป็นทางการใน Newsroom?ส่วนทางฝั่ง?Instagram ก็ประกาศในบล็อกของทางเว็บไปในทิศทางเดียวกัน โดยราคาการซื้อขายในครั้งนี้เป็นการบอกเพียงคร่าวๆ เท่านั้น ซึ่งจะมีการแถลงจำนวนเงินอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 นี้ (เดือนมิถุนายน)
สำหรับแถลงการของ Mark Zuckerberg CEO ของ Facebook พูดคร่าวๆ ว่า ช่วงปีที่ผ่านมา ทาง Facebook ได้มีความพยายามที่จะพัฒนาในด้านการแชร์ภาพ (Photo Sharing) ในตอนนี้ก็เป็นโอกาสอันดีที่?Facebook จะได้เริ่มทำงานร่วมกับทีม Instagram อย่างใกล้ชิด โดยจะอยู่ในหลักการที่ว่า “รูปสวยๆ จากมือถือ กับคนที่อยู่ในความสนใจของคุณ”
ส่วนทาง CEO ของ Instagram;?Kevin Systrom ก็ออกมายืนยันหนักแน่นว่า เราจะยังไม่หนีไปไหน แต่เราจะเข้ามาร่วมมือกับทาง Facebook ในการสร้างเครือข่ายที่ดีขึ้นกว่าเดิม และจะทยอยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้ทุกคนที่ใช้งานได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ในการถ่ายภาพผ่านโทรศัพท์มือถือ
นอกเหนือจากนั้น Mark ได้เขียนบล็อกบอกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังการรวมของ Facebook และ Instagram ว่า จะยังคงเก็บคุณสมบัติที่มีในการแชร์ภาพของ Instagram ไปยัง Social Network ตัวอื่นๆ ไว้เหมือนเดิม และจะไม่มีการบังคับว่าจะต้องแชร์ขึ้น Facebook ซึ่งนั่นก็คือคุณสมบัติที่เป็นอยู่ของ Instagram ในปัจจุบันก็จะยังคงเดิม รวมไปถึงระบบการ Follow ตามคนบน Instagram ก็จะแยกคิดกับการ Add Friends ของ Facebook
Mark บอกในตอนท้ายว่า การซื้อ Instagram ครั้งนี้ ถือเป็นการซื้อครั้งแรกและเป็นครั้งสำคัญของทาง Facebook ที่เข้าซื้อทั้งบริษัทและผลิตภัณฑ์ที่มีผู้ใช้จำนวนงานมากมายขนาดนี้ ซึ่งทาง Facebook ยังไม่มีแผนที่จะทำอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ แต่สิ่งที่เราทำให้ได้คือการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลที่ใครๆ ก็รัก Facebook และเรารู้ว่ามันจะเป็นการลงทุนอย่างคุ้มค่าในนำสองบริษัทนี้มาทำงานร่วมกัน
ถือเป็นการซื้อที่สร้างความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนี่คือการกลืนยักษ์แห่งการแชร์ภาพบน Social Network ให้มาเป็นของตัวเอง สิ่งที่น่าสนใจตามมาคือ จะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างบน Facebook และบน Instagram จะเป็นอย่างที่มาร์คพูดไว้หรือเปล่า ต้องติดตามกันครับ
ที่มา:?thenextweb