สวัสดีวันแรงงานครับชาว thumbsuper วันนี้หลายๆ คนน่าจะได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านพักผ่อนจากการทำงาน แต่ทีมบรรณาธิการ thumbsup ก็ยังไม่หยุดที่จะเขียนข่าวหรือบทความมาให้อ่านกันเช่นเดิม
การขายสินค้าหรือโปรโมทแบรนด์ต่างๆ นั่นในสมัยก่อน จะต้องทำผ่านการซื้อพื้นที่โฆษณาผ่านหนังสือ เพื่อที่จะนำเสนอสินค้าที่ต้องการ แต่ในปัจจุบันการมาของโซเชียลเน็ตเวิร์กและความสามารถของสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปได้สวยและสามารถอัพโหลดรูปขึ้นไปแชร์ได้ทันที ทำให้ช่องว่างของเวลาในการรอหนังสือตีพิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่มนั้นถูกกำจัดออกไปทันที
การใช้รูปถ่ายหรือรูปภาพของสินค้าบนโลกออนไลน์ค่อนข้างมีผลกับการซื้อและเลือกใช้บริการนั้นๆ เพราะต้องทำให้ดึงดูดใจคนพบเห็นและชวนให้ซื้อสินค้าด้วยไปในตัว โดยมีเครื่องมือช่วยอย่างโซเชียลเน็ตเวิร์คให้เลือกใช้ ซึ่อยู่หลายอย่าง เช่น?Facebook Page, Twitter, Instagram, Flckr และน้องใหม่มาแรงอย่าง?Pinterest?แต่ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมในไทยมากนัก
วันนี้เลยมีเคล็ดลับการใช้ภาพถ่ายกับแบรนด์หรือสินค้าเพื่อทำให้แบรนด์ดูน่าสนใจขึ้น 5 ข้อครับ
- เริ่มเปิดการสนทนาด้วยการแชร์รูป?- ภาพสินค้าที่ถูกแชร์ขึ้นไปนั้นโดยเจ้าของแบรนด์หรือผู้ดูแลจะถูกจินตนาการและตีความหมายโดยผู้ที่ได้เห็นเพียงฝ่ายเดียว ดังนั้นแล้วการเลือกรูปเพื่อที่จะสื่อสารกับลูกค้าที่ติดตามและสนใจเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งจะต้องทำให้ครอบคลุมกับสิ่งที่เราต้องการสื่อให้ลูกค้าได้เหมือนกับที่เราต้องการ รวมทั้งสร้างความอยากให้ลูกค้าซื้อสินค้าจากรูปที่เราแชร์
- สร้างบทสนทนาขึ้นมาจากภาพที่ลูกค้าเป็นคนมาโพสต์ภาพไว้ –?นอกจากการโพสต์รูปจากทางเจ้าของแบรนด์แล้ว ลูกค้าก็สามารถมาโพสต์รูปส่งมาหาเราได้เช่นกัน เช่นทาง Facebok Page หรือ Twitter ดังนั้นแล้วผู้ดูแลแบรนด์จะต้องพยายามสร้างการสนทนากับลูกค้าที่โพสต์รูปขึ้นมา เพราะนอกจากลูกค้าเองที่จะแฮปปี้แล้ว ยังมีลูกค้าคนอื่นๆ ที่ติดตามหน้าเว็บที่จะคอยดูและติดตามการสนทนาอีกด้วย ซึ่งจะมีผลกระทบโดยอ้อมกับคนที่อ่าน
- อย่าจงใจขายสินค้าโดยตรง – เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าทุกวันนี้กลุ่มลูกค้าผู้บริโภคฉลาดที่จะเลือกซื้อสินค้ามากขึ้นและรู้ทางเจ้าของแบรนด์มากขึ้นว่าจะทำอะไร 1 ในสิ่งที่รับรู้ได้โดยง่ายในปัจจุบันนั่นคือการยัดเยียดขายสินค้าโดยตรง ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าอึดอัดโดยตรงและจะทำให้เราเสียลูกค้าไปแบบไม่รู้ตัว ดังนั้นแล้วการทำ 2 ขั้นตอนแรกเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และสินค้าได้โดยอ้อมซึ่งจะมีผลในระยะยาวในการมัดใจลูกค้านั่นเอง
- เปิดใจให้ลูกค้าแชร์ข้อมูล?- ทุกวันนี้เรามักจะเห็นการแชร์ข้อมูลผ่านออนไลน์เพื่อบรรยายการใช้งานให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ รวมไปถึงสอบถามว่าใช่หรือไม่ในสิ่งที่เขาสงสัย ดังนั้น สิ่งที่เราจะทำได้นั่นคือการแชร์รูปนั้นซ้ำเพื่อเป็นการกระตุ้นและให้ได้รับรู้ว่าเราไม่ได้นิ่งเฉยต่อการส่งข้อมูลมา และอย่าลืมที่จะตอบข้อสงสัยของลูกค้านั้นด้วยนะครับ
- ช่วย 1 คนเหมือนได้ช่วยหลายคน – อีก 1 ในเหตุผลในการแชร์รูปบนโซเชียลเน็ตเวิร์คนั่นคือการขอความช่วยเหลือ ดังนั้น เพื่อเพิ่มมูลค่าของข้อมูลที่เอามาแชร์ จงกระตุ้นให้ลูกค้าของคุณทำการแชร์รูปกับผลิตภัณฑ์ของเรา ตัวอย่างเช่น หากขายเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ เจ้าของแบรนด์อาจมีการขอให้ลูกค้าที่ได้ซื้อสินค้าไปแล้วทำการแชร์รูปสินค้าที่ถูกสวมใส่หรือใช้งานจริง เพื่อให้คนอื่นได้เห็นและเป็นเครื่องช่วยตัดสินใจว่าเป็นอย่างไรบ้าง นอกจากนั้นเรายังสามารถที่จะแนะนำแนวทางการเพิ่มเติมได้ ในกรณีที่ลูกค้าไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์จากทางเราทั้งหมด (แต่อย่าลืมข้อ 3 ด้วยนะครับ)
จะเห็นได้ว่าภาพถ่ายมีส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าและแบรนด์ สามารถสร้างสังคม (Community) ของคนที่ชอบสินค้าเดียวกัน และสร้างให้ผู้ใช้ผลิตภัณฆ์มีความจงรักภักดี (Loyalty) กับแบรนด์ที่เราดูแลได้?แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่จะทำให้แบรนด์อยู่ในใจกับลูกค้าไปได้ตลอดนั้น ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลโซเชียลเน็ตเวิร์คนั้นๆ ว่าจะมีความสม่ำเสมอในการเข้าไปดูแลจัดการ รวมทั้งสร้างความแปลกใหม่ให้ลูกค้าได้เห็น เพื่อที่จะให้ลูกค้ายังคงใช้งานกับเราไปอีกนานๆ แถมเพิ่มลูกค้าหน้าใหม่ๆ ได้อีกด้วย
thumbsuper ท่านไหนมีไอเดียหรือความคิดเห็นอย่างไร ช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างเปิดโอกาสให้คุณแชร์กันได้เต็มที่ครับ ^_^
ที่มา:?bazaarvoice.com