ภาพจาก?theverge.com
Facebook คือ 1 ใน Social Network ที่คนใช้คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว แถมยังมีปริมาณผู้ใช้งานมากกว่า 840 ล้านคน?(ข้อมูลเดือน พ.ค. 2555) ด้วยปริมาณผู้ใช้จำนวนมากมายมหาศาลขนาดนี้ จึงเป็นช่องทางเพื่อให้ร้านค้าลงมาทำการตลาดหรือสร้างแคมเปญบน Facebook ซึ่งก็มีหลายรูปแบบให้เห็น วันนี้มี 1 ไอเดียที่เกิดขึ้นจริงจากการนำคุณสมบัติบน Facebook ที่ฮิตติดปากอย่างการกด “Like” มาดัดแปลงใช้จริงกับธุรกิจร้านค้าโดยเฉพาะร้านขายประเภทเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ลองมาดูกันครับว่าเขาทำกันอย่างไร
หลายคนคงจะคุ้นเคยกับการกด Like ตามความเห็นหรือรูปภาพที่เรารู้สึกชื่นชอบหรือชอบใจบน Facebook กันอยู่แล้ว ตอนนี้มีร้านเสื้อผ้าในประเทศบราซิลชื่อว่า C&A ได้ดึงคุณสมบัติของการกด Like มาดัดแปลง โดยใช้รูปภาพสินค้าที่ปกติทางร้านนำขึ้นไปโพสต์บน Facebook Page อยู่แล้ว ให้มาแสดงจำนวนการกด Like บนราวแขวนเสื้อรูปแบบพิเศษที่ทางร้านทำขึ้นมา โดยเรียกรูปแบบการทำแบบนี้ว่า “Fashion Like”
รูปแบบการแสดงผลนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน เพราะปริมาณการกด Like จะปรากฏขึ้นบนที่ราวแขวนของเสื้อตัวนั้นๆ ในรูปแบบเรียลไทม์ (Real-Time) นั่นคือหากมีผู้มากด Like ในเวลานั้นก็จะมีจำนวน Like เพิ่มขึ้นมาในทันทีกับเสื้อตัวที่อยู่บนราวแขวน การสร้างราวแขวนจะสร้างจุดสนใจและดึงดูดคนให้สนใจ แถมยังถือเป็น 1 ในปัจจัยในการเลือกซื้อสินค้าสำหรับลูกค้าที่ลังเลว่าจะซื้อตัวไหนด้วยการเทียบปริมาณการกด Like ของสินค้าทั้งสองอย่างนั้นเอง
นอกจากนั้นยังมีผลกับต่อลูกค้าที่ไม่ได้ใช้งาน Facebook อีกด้วย เพราะลูกค้าจะได้รับรู้การความชอบของคนในโลกออนไลน์จากปริมาณการกด Like ซึ่งนั่นก็คือร้านผนวกโลกออฟไลน์และออนไลน์เข้ามาอยู่ด้วย ซึ่งสามารถดึงคนจากทั้ง 2 ด้านมาให้อยู่ในจุดเดียวกันนั่นคือลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้า และก็เพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้านั่นเอง
ลองดูวิดิโอแนะนำจากทางร้านดูครับ เป็นภาษาโปรตุกีสแต่สามารถเข้าใจตามได้ไม่ยากนัก
httpvh://www.youtube.com/watch?v=K4qdNb6FvGY
เราเรียนรู้อะไรจากข่าวนี้
ถือเป็นอีก 1 การดัดแปลงที่ทำให้โลกออนไลน์แฝงมาอยู่ในโลกออฟไลน์ได้อย่างแนบเนียน เพราะสิ่งที่ร้าน C&A ทำคือการสร้างความแตกต่างในการนำเสนอและการดึงลูกค้าเข้าร้าน แต่หากมองในแง่ต้นทุนอาจจะสูงมากในการทำแต่คุ้มกับการเรียกลูกค้า เพราะจำนวนผู้ใช้งาน Facebook ประเทศบราซิลขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้วรองจากสหรัฐอเมริกา (ข้อมูลจาก Socialbakers) แต่สำหรับผู้เริ่มต้นทำธุรกิจที่มีทุนเริ่มต้นไม่มากนัก อาจดัดแปลงการทำในแนวคล้ายๆ กัน เช่น การพิมพ์รูปและจำนวน Like ไปแปะไว้ที่สินค้านั้นๆ เพื่อหลักฐานจริงว่าไม่ได้พูดลอยๆ เป็นต้น
แต่อย่าลืมที่จะคิดทำแคมเปญใหม่ๆ ควบคู่กันไปด้วยเพื่อความแตกต่างของธุรกิจตัวเองด้วยนะครับ
ที่มา: springwise