เราได้รับการติดต่อจาก “วรพจน์ นิ่มวิจิตร” อดีตผู้บริหารส่วนงานดิจิตอลของ RS ว่าหลังจากที่ออกมาจาก RS ก็ได้สร้างบริษัทใหม่ขึ้นมาและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่นั่นคือ BandOn Radio สถานีวิทยุบน Facebook พร้อมดึงดีเจรุ่นใหญ่หลายๆ คน รวมถึงทีมงาน อย่าง “หมึก” โรจ ควันธรรม, “แต๋ว” วาสนา วีระชาติพลี, “ซัน” มาโนช พุฒตาล, “ซี๊ด” นรเศรษฐ หมัดคง มาจัดรายการโดยวรพจกล่าวถึงที่มาของ BandOn Radio บนเว็บไซต์ของเขาว่า
“เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของการสื่อสารในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมาก ธุรกิจดิจิตอลกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด อัตราการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ Facebook ซึ่งมีทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุ ยิ่งมีสมาร์ทโฟนด้วยแล้ว การเข้าถึงสังคมออนไลน์ก็ยิ่งง่ายมากขึ้น ดังนั้นการเปิดสถานีวิทยุบน Facebook ก็น่าจะตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้ เพราะไม่เพียงแต่ผู้ฟังที่สามารถฟังได้ทุกที่ ทุกเวลา ดีเจของ BandOn Radio ก็สามารถจัดรายการได้ทุกที่เช่นเดียวกัน และจะดีมากขึ้นไปอีก หากดีเจสามารถถ่ายทอดเรื่องราวหรือบรรยากาศในสถานที่นั้นๆ ซึ่งอาจจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน”
ในเรื่องนี้ทาง thumbsup ได้สอบถามวรพจน์เพิ่มเติมไปทางอีเมลเพราะเราไม่คิดว่าลำพังคนใช้ Facebook เยอะอย่างเดียวจะทำให้เขาตัดสินใจทำรายการบน Facebook ได้ ซึ่งวรพจน์ตอบเราในรายละเอียดการตัดสินใจทำงานตรงนี้ว่า
ที่มาที่ไปของธุรกิจนี้เอาเข้าจริงๆ มีอะไรมากกว่า Facebook ดังไหม?
สตรีมมิ่งคือธุรกิจบันเทิงดิจิตอลยุคต่อจากดาวน์โหลด เอ็มพี3 ริงโทน ริงแบ็คโทน ฯลฯ และจะอยู่ต่อไปอีกนานครับ ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเป็นผู้เล่นระดับโลกเช่น Pandora, Spotify, Deezer (เปิดในไทยแล้ว) ฯลฯ ซึ่งยังไม่มีใครทำเป็นวิทยุอย่างแท้จริง วิทยุอินเทอร์เน็ตในไทยทำกันแบบงานอดิเรก คุณภาพเสียงสู้วิทยุเอฟเอ็ม หรือวิทยุอินเทอร์เน็ตจากต่างประเทศไม่ได้ ไม่มีโอกาสพัฒนาขึ้นเป็นธุรกิจเต็มรูปแบบ ผู้ฟังจะตื่นตัวขึ้นเมื่อผู้ให้บริการระดับโลกเข้ามาทำตลาด แต่ยังไม่มีคนไทยทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง BandOn Radio เป็นรายแรกที่ตั้งใจทำเพื่อสู้กับคู่แข่งยักษ์ใหญ่เหล่านั้นครับ
แล้ว Business model คืออะไร นวัตกรรมของ product คุณคืออะไร?
Business model คือ รายได้มาจากการโฆษณา ผู้ฟังไม่ต้องเสียเงินครับ นวัตกรรมของ product คือ ดีเจมืออาชีพที่หันมาจัดรายการทาง Facebook คุณภาพเสียงเทียบเท่าหรือดีกว่าวิทยุเอฟเอ็ม ระบบสื่อสารที่ทำได้ทั้งดีเจคุยกับผู้ฟังและผู้ฟังคุยกับผู้ฟัง ฟังได้จากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุค พีซี แมคผ่าน 3G หรือ Wi-Fi ก็ได้ ความหลากหลายของรายการที่จะตอบสนองการดำเนินชีวิตของกลุ่มเป้าหมาย และการมีรีรันช่วยลดโอกาสพลาดรายการ
คุณคิดว่าคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของคุณคือใคร
กลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้ใช้ Facebook อายุ 25-35 ปีครับ กลุ่มรองคือ 35 ปีขึ้นไป ส่วนต่ำกว่า 25 ปีเป็นกลุ่มที่ 3 ครับ
อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางการสื่อสาร 2 ทาง แต่การทำวิทยุ เป็นช่องทางการสื่อสารทางเดียว เหมือนกับใช้อินเทอร์เน็ตไม่เต็มประสิทธิภาพ คุณเห็นต่างไปจากนี้หรือไม่?
อินเทอร์เน็ตเป็นพื้นที่กิจกรรมหลายอย่าง (Multi-Tasking) ครับ คนเราอ่านดราม่า คุยกับเพื่อน อัพงาน โหลดหนัง ฟังเพลง ส่งเมล์ไปพร้อมๆ กัน BandOn Radio เลือกจะเป็น social network radio โดยใช้ระบบต่างๆ ของ Facebook ครับ ดีเจสามารถตอบสนองกับผู้ฟังได้ทั้งทางคีย์บอร์ด เมาส์ หรือไมค์ก็ได้ครับ
ในแง่การใช้งานแล้วไม่มีอะไรต้องคิดมากเลยครับ เปิดเข้าไปก็ฟังได้เลย อยากฟังดีเจคนไหนที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษในอดีตก็ฟังได้เลย แต่ตอนนี้ผมอยากฟังบนมือถือผ่าน application ยังทำไม่ได้ เพลงที่เปิดก็เก่าได้ใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงยุค 80’s 90’s มาครบครัน ใครอยากลองย้อนอดีตก็ลองเข้าไปฟังกันได้ที่ http://www.facebook.com/BandOnRadio
วรพจน์ นับเป็นหนึ่งในคนที่ผ่านงานด้านดนตรีดิจิตอลมาอย่างโชกโชนเกือบ 30 ปี เขาเริ่มจากการทำงานให้กับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ทั้ง EMI, Warner, Bakery และ RS ก่อนที่จะออกมาสร้างกิจการของตัวเองในครั้งนี้ และทำงานร่วมกับ มธุรส โอสถานนท์ นักจัดรายการวิทยุซึ่งคลุกคลีกับแวดวงกระจายเสียงมากว่า 20 ปี
ที่มาของภาพ: Prachachart.net และ? BandOnRadio.com