Lazada ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เปิดเผยวันนี้ว่า กลุ่มนักลงทุนสัญชาติเบลเยี่ยม Verlinvest ผู้มุ่งเน้นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทในฐานะนักลงทุน ร่วมกับกลุ่มนักลงทุนเดิมอย่าง Holtzbrinck Ventures, Kinnvik, Summit Partners และ Tengelmann Group โดยได้อัดฉีดเงินลงทุนกว่า 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ให้กับ Lazada บริษัทสัญชาติเยอรมันในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจในครั้งนี้
นาย นายแม็กซิมิลเลียน บิทเนอร์ Maximilian Bittner, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของ Lazada กล่าวไว้ว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถสรุปการลงทุนอย่างรวดเร็วในครั้งนี้หลังจากครบรอบ 1 ปีในการดำเนินธุรกิจ โดยในขณะนี้เรามุ่งเน้นความตั้งใจเต็มร้อยกับการให้ประสบการณ์ช็อปปิ้งอันเยี่ยมยอดแก่ลูกค้า” โดยยังเพิ่มเติมไว้ว่า การร่วมลงทุนในครั้งนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดหมายเอาไว้ ในขณะเดียวกัน นาย Frederick de Mevius ประธานบริษัทของ Verlinvest ได้กล่าวว่า เขามีความตื่นเต้นมากที่ได้เข้าร่วมลงทุนกับ Lazada และเป็นผู้ลงทุนร่วมกับบริษัทแม่อย่าง Rocket Internet โดยได้เสริมว่า “การเติบโตอันรวดเร็วของ Lazada หลังการดำเนินการเพียงหนึ่งปี เป็นไปอย่างน่าประทับใจมาก หากมองในภาพรวมในแง่ของผู้บริหารและนักลงทุนด้วยแล้ว เรามั่นใจในอนาคตของ Lazada อย่างมากเลยทีเดียว”
เพียงหนึ่งปีของการทำธุรกิจ Lazada มียอดรายการคำสั่งซื้อกว่า 1 ล้านรายการ โดยบริษัทได้มุ่งเน้นในการให้ประสบการณ์อันยอดเยี่ยมกับลูกค้า และลงทุนอย่างเข้มข้นกับการให้บริการอันน่าประทับใจ โดยการมุ่งเน้นนี้ ส่งผลให้สามารถดำเนินงานได้อย่างคล่องตัว กว่า 90% ของรายการคำสั่งซื้อสามารถจัดส่งได้ภายในวันเดียว และกว่า 85% ของรายการคำสั่งซื้อจากพื้นที่ต่างจังหวัดสามารถจัดส่งได้ภายในวันถัดไป อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการพัฒนาความรวดเร็วในการจัดส่ง และเพิ่มความพึงพอใจแก่ลูกค้า ทางบริษัทวางแผนที่จะใช้เงินทุนก้อนใหม่นี้ นำไปเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานเดิมให้ดียิ่งขึ้นไปในอนาคต
ในเวลาเดียวกัน Lazada ได้ประกาศเปิดตัวแอพพลิเคชั่นมือถือใหม่ ที่สามารถเสริมความสะดวกรวดเร็วให้กับประสบการณ์ช็อปปิ้งในรูปแบบที่ทันสมัยและใช้งานง่ายแก่ลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน โดยในขณะนี้แอพพลิเคชั่นเปิดให้ดาวน์โหลดได้ในระบบแอนดรอย และกำลังจะนำเข้าสู่ App Store สำหรับผู้ใช้ iOS เร็วๆนี้อีกด้วย นาย Stein Jakob Oeie ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด กล่าวไว้ว่า “เราตื่นเต้นมาก ที่ได้เปิดตัวแพลทฟอร์มการช็อปปิ้งบนมือถือที่จะสามารถให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้าของเราได้มากขึ้น สามารถสั่งซื้อสินค้าได้จากทุกที่ ทุกเวลา” โดยยังเสริมไว้อีกว่า “ตลาดมือถือนั้น มีสัดส่วนมากกว่า 10% ของธุรกิจ e-Commerce ในสหรัฐอเมริกา และเราคาดหวังที่จะพัฒนามันให้รวดเร็วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนเป็นจำนวนมาก”
สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้จาก Play Store