วันนี้เราทราบมาจาก “หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์” ที่คนในแวดวงไอทีรู้จักเขาจากรายการโทรทัศน์ขวัญใจชาวไอที “แบไต๋ไฮเทค” ว่าขออำลารายการแบไต๋ไฮเทคอย่างเป็นทางการเสียแล้วล่ะครับ
เราได้สอบถาม “หนุ่ย” ถึงที่มาที่ไปว่าทำไมถึงประกาศอำลารายการที่ตัวเองสร้างมาร่วมแปดปี ก็ได้คำตอบว่า
“1 เมษายนนี้ผมต้องขึ้นรายการใหม่ๆ นับรวมได้ 9 รายการ ผมต้องเตรียมงานทีวีดิจิทัล แต่รายการแบไต๋ไฮเทคในทีวีดาวเทียมก็ยังดำเนินต่อไป มีพิธีกรท่านเดิมคือ อาจารย์ศุภเดช พี่หลาม จิ๊กโก๋ไอที ปีเตอร์กวง ควงมือถือ และพิธีกรสุดสวยคนใหม่ น้องเฟื่องลดา สรานี สงวนเรือง มาให้ทุกท่านได้ติดตามชมกันเช่นเดิมครับ”
เราได้สอบถามหนุ่ยถึงรายการโทรทัศน์ดิจิทัลที่จะไปทำว่าเป็นรายการแบบไหนและ มีให้ชมที่ช่องใดบ้างก็ได้คำตอบว่า
“รายการ ที่ผมจะทำจะมีหลายแนวแต่ใช้ไอทีเป็นส่วนสร้างเสริมทุกรายการ อย่างแรกจะเป็นรายการเกมโชว์ ที่มีการนำเสนอแบบใหม่ที่ใช้แนวคิด Second Screen นึกภาพง่ายๆ ว่าคุณกำลังดูเกมโชว์อยู่ มีดารามาตอบคำถาม ดาราเกิดตอบผิด สมัยก่อนสิ่งเดียวที่คุณทำได้คือ “ด่าต่อหน้าทีวี” แต่ต่อจากนี้คุณใช้ smartphone เอาตัวคุณเข้าไปในรายการได้ มีส่วนตั้งแต่ตอบคำถามเข้าไปในรายการได้ แข่งกับดาราได้ มีส่วนช่วยในการพลิกเกมได้ ตามมาด้วยรายการประเภทประกวด ส่งเสริมความสามารถเยาวชน รายการข่าว วิเคราะห์ข่าวไอที รายการทอล์คโชว์แนวใหม่ และรายการอาหารที่ผมคิดว่าแหวกแนวที่สุดครับ และแน่นอนว่ารายการแบไต๋ไฮเทคจะเข้ามาอยู่ในดิจิทัลทีวีด้วยในเวลาไพร์มไทม์ ใน 5ช่องใหม่นี้มี 2ช่องที่ออกอากาศเป็น HD ซึ่งภาพจะซัดสะใจคนทำซะทีเรา คนดูจะได้เห็นเท่ากับที่ตาเราเห็นในห้องต้ดต่อแล้ว ณ จุดนี้ภูมิใจมาก
รูปแบบธุรกิจของคุณจะเป็นอย่างไร?
ชีวิต ผมผลิตรายการโทรทัศน์มา 15 ปีแล้ว เราตื่นเต้นมากที่สถานีต่างๆ มอบเวลา primetime มาให้เราหลายช่วง หลายวัน เรียกว่ามีรายการให้คุณผู้ชมดู “ทุกวัน” รูปแบบธุรกิจเป็น “time sharing” ในส่วนใหญ่เลย ซึ่งในมุมมองของเราคือ “ดีที่สุด” เลย สถานีต่างต้องการ Content ที่ดี จึงกวาดต้อนผู้ผลิตด้วยโมเดลนี้ เราทำหน้าที่ผลิตภาพบนหน้าจอให้ดีที่สุดไปให้สถานี สถานีไม่คิดค่าเช่าเวลา แต่มาแบ่งนาทีกันเพื่อขายโฆษณา
หมายเหตุ – ในประเทศไทยจะมีรูปแบบการทำธุรกิจระหว่างเจ้าของช่องและผู้ผลิตอยู่หลักๆ 3 แบบ
1. เช่าเวลา (ถ้ามีความสามารถเช่าได้ ก็จ่ายสดๆ การรันตีไปล่วงหน้า 1-2เดือน) รูปแบบนี้ผู้ผลิตเสี่ยงมาก แต่ก็ได้นาทีขายโฆษณาเต็มๆ 100% (รายการ1ชม.โฆษณาได้ 10นาที)
2. time sharing สถานีเห็นผู้จัดคนไหนเก่งก็เรียกเข้ามา เสนอรายการจนผ่าน แล้วแบ่งนาทีกันขายโฆษณาในอัตราส่วน 50/50 แต่สำหรับโทรทัศน์ดิจิทัลสัดส่วนจะดีกว่านั้น
3. จ้างผลิต จ่ายค่าผลิตเป็นตอนๆ เซฟที่สุด แต่ไม่รวย
เสียดายไหมที่อำลาแบไต๋ไฮเทค? พิธีกรคนอื่นๆ รู้สึกอย่างไร?
“ผมทำรายการแบไต๋ไฮเทคมา 8 ปีก็ยังรักมัน แต่ไม่ได้คิดจะเลิกทำอาชีพพิธีกรนะครับ ผมแค่ยุติบทบาทในรายการแบไต๋ไฮเทคแบบไม่มีกำหนด เพราะจะต้องเอาเวลาไปคิดรายการใหม่ พรีเซนต์งาน เดินสายพบปะสปอนเซอร์ และประชุมงานเบื้องหลัง และผมก็ยังคงดำเนินรายการอื่นๆ ด้วยตัวเอง อย่าง Innovation9, แบไต๋ไอที(โมเดิร์นไนน์), แม่บ้านผ่านยุค(ThaiPBS)
“เพื่อนพิธีกรคนอื่นๆ ก็เข้าใจ เราไม่ได้หย่าขาดจากแบไต๋ฯ เพียงผมแค่หยุดชั่วคราวเพื่อไปเตรียมงานใหม่และรอวันที่จะกลับมาบนคลื่นถี่ดิจิทัลอย่างเต็มคราบ รายการคราวนี้ที่ผมได้โอกาสทำมันเป็นรายการที่อยากทำมานานมากแล้วในยุคฟรีทีวี ผมเดินสายเพื่อเสนอรายการเหล่านี้ทางฟรีทีวี แต่สิ่งที่ผมได้รับคำตอบกลับมาจากผู้ใหญ่ในช่องฟรีทีวีในช่วงหลายปีที่ผ่าน มาคือ “รายการคุณฉลาดไป” เขาคอมเม้นต์ผมแบบนี้ ผมจำคำไว้ฝังใจ แต่ก็เข้าใจเขานะ เขาทำธุรกิจฟรีทีวี ช่องฟรีทีวีมันมีไม่กี่ช่อง การแข่งขันด้านเรตติ้งมันหนักมากเกินกว่าที่จะให้เขาจะมาทดลองทำอะไรใหม่ๆ ที่อยู่นอกเหนือจากความนิยมได้ เขาจะตกอยู่ในฐานะเสี่ยงถ้าเรตติ้งตกขึ้นมาจะวุ่น จึงจำเป็นต้องเลือกทำสิ่งเดิมๆ ที่ดีอยู่แล้วก่อน อันนี้เข้าใจได้…”
“แต่ นาทีนี้ผมรู้สึกดีใจมากที่ยุคดิจิทัลมาถึง มันก็คือ”ฟรีทีวีนั่นแหละ”ที่โผล่ขึ้นมาอีก 24 ช่อง ศักดิ์และสิทธิ์มันเท่ากัน ซึ่งจะไม่มีมากกว่านี้อีกแล้วใน 15 ปีต่อจากนี้ นี่คือโอกาส ผมเอารายการไปเสนอสถานีดิจิทัล ทุกสถานีเอาหมด เขากวักมือเรียกด้วย ก็หวังว่าผู้ชมแบไต๋ฯ จะยินดีที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ จากเราด้วยนะครับ เราเอาเทคโนโลยีที่เรารู้จักดีมาประยุกต์ใช้ให้รายการสนุกขึ้น แปลกใหม่ขึ้น …เชื่อว่าจะถูกใจทุกคนครับ”
ชมวิดีโอที่หนุ่ยกล่าวลากับทุกๆ คนด้วยตัวเองด้านล่างนี้ครับ
ที่มาของภาพ: ผู้จัดการ