Terms of Service ที่โซเชียลเน็ตเวิร์กและธุรกิจออนไลน์แพลตฟอร์มต่างๆ จัดเอาไว้ให้ผู้ใช้งานอาจจะเป็นเอกสารทางกฏหมายที่มีคนอ่านน้อยที่สุด แต่มีคนตกลงและยินยอม (Agree) มากที่สุดในประวัติศาสตร์ จริงๆ แล้วการไม่อ่านเนื้อหาเหล่านี้ ผู้ใช้งานอาจจะไม่ตระหนักว่าเนื้อหาต่างๆ ที่เราโพสต์นั้นกลายเป็นเครื่องมือทำเงินให้กับโซเชียลเน็ตเวิร์กเหล่านั้นได้ ซึ่ง LinkedIn อยากจะแก้ปัญหานี้ด้วยการทำให้การนำเสนอ Terms of Service มีประสิทธิภาพมากขึ้น และบอกกับผู้ใช้งานได้อย่างชัดเจนว่าเนื้อหาที่พวกเขาโพสต์จะถูกนำไปใช้ได้อย่างไรบ้าง
LinkedIn ประกาศเอาไว้ในเอกสารที่ส่งให้กับผู้สื่อข่าวว่า “คุณเป็นเจ้าของคอนเทนต์ที่คุณโพสต์ในแพลทฟอร์มของเรา และมันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” นี่คือใจความสำคัญที่สุด ไม่มีอะไรจะเข้าใจง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว หากเข้าไปดูใน User Agreement ของ LinkedIn ก็จะเห็นว่าถูกนำเสนอให้อ่านได้ง่ายขึ้น มีการแยกคอลัมน์ซ้าย-ขวาอย่างเป็นระบบ โดยคอลัมน์ทางซ้ายมือจะเป็นหัวข้อหลักๆ สำหรับให้ผู้ใช้งานทั่วไปอ่านได้ง่ายๆ ในขณะที่ฝั่งขวาจะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่จำเป็นจะต้องมีตามกฏหมาย ซึ่งจะไม่มีก็ไม่ได้ ดังนั้น คอลัมน์ขวาจะทำให้นักกฏหมายค่อนข้างแฮปปี้ไปตามระเบียบ
นอกจากรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือแล้ว LinkedIn ยังทำวิดีโอเพื่อบอกกับผู้ใช้งานด้วยว่าคอนเทนต์ของพวกเขาจะถูกนำไปใช้อย่างไรบ้าง เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าพวกเขายังเป็นเจ้าของมันอย่างเต็มที่ (รับชมได้ที่ท้ายบทความค่ะ) ซึ่งนี่เป็นความเคลื่อนไหวที่ฟังดูดีมากๆ และจะดีมากกว่านี้ถ้าผู้ให้บริการรายอื่นๆ ทำให้เอกสารทางกฏหมายเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายๆ เพราะมันจะไม่ทำให้ผู้ใช้งานเลื่อนดูผ่านๆ เพื่อจะไปกดปุ่ม Agree เท่านั้น และที่สำคัญคือ Terms of Service ที่อ่านยากและซับซ้อนอาจจะทำให้องค์กรมีปัญหาทางกฏหมายบ่อยๆ ได้
ทาง LinkedIn บอกว่า Terms of Service คือปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความไว้วางใจของผู้ใช้งาน เพราะถ้ามันยังซับซ้อนยุ่งยากไม่ชวนให้อ่าน ก็อาจจะทำใ้ห้เสียความไว้วางใจจากผู้ใช้งานได้ ถ้าดูในวิดีโอแนะนำของ LinkedIn ก็จะเห็นได้ว่า “Trust” ถูกย้ำบ่อยมากๆ และ LinkedIn อาจจะเป็นเจ้าแรกที่ใส่ใจกับเรื่องที่ไม่เคยมีคนใส่ใจแบบนี้
ที่มา : Social Times