ตลาด E-Commerce ในไทยถือว่ามีความคึกคักเป็นอย่างมาก ด้วยพฤติกรรมของผู้ซื้อที่เปลี่ยนไปและผู้เล่นที่อยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันกันสูงขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อเอามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค วันนี้ทาง iTrueMart ได้เปิดเผยถึงการเติบโตของธุรกิจ รวมทั้งการเปิดหมวดสินค้าใหม่ล่าสุดที่จะช่วยตอบความต้องการของผู้ซื้อให้ครอบคลุมและสะดวกมากกว่าเดิม และช่วยกระตุ้นการเติบโตด้วย
คุณปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด พูดถึงการเติบโตในตลาด E-Commerce ในประเทศไทยว่าจะมีความพร้อมมากและเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ง่ายและมีการใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล้วนส่งผลให้จำนวนการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มีมากขึ้นไปด้วย ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลของแอสเซนด์ กรุ๊ป ว่าทั้ง iTrueMart และ WeLoveShopping มียอดการสั่งซื้อรวมกันมากกว่า 14,000 รายการต่อวัน และมีช่วงสูงสุดอยู่ที่ 18,500 รายการต่อวัน ด้วยยอดนี้ทำให้ แอสเซนด์ กรุ๊ป ก้าวขึ้นสู่ผู้นำตลาด E-Commerce ในประเทศไทย
ในแง่ของ E-Commerce ในตลาด AEC ไทยและอินโดนีเซียครองตลาดอยู่กว่า 50% โดยศักยภาพของประเทศใน AEC จะเห็นอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างมาก ด้วยโอกาสที่มีทาง iTrueMart จะเริ่มเข้าไปเปิดให้บริการในภูมิภาคนี้เพิ่ม โดยประเทศแรกที่จะเข้าไปก็คือฟิลิปปินส์ และปี 2016 ก็จะขยายสู่ เวียดนาม อินโดนีเซีย พม่า กัมพูชา มาเลเซีย และสิงคโปร์ ตามลำดับ ด้วยเงินลงทุนกว่า 5,300 ล้านบาท
คุณสืบสกล สกลสัตยาทร ผู้จัดการทั่วไป หน่วยงาน iTrueMart.com บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด และคุณดรุณพร จิรกิจอนุสรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ หน่วยงาน iTrueMart.com บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด ได้ขึ้นมาพูดถึงเป้าหมายที่จะเกิดขึ้นของ iTrueMart ด้วยกลยุทธ์หลัก 3 ข้อคือ การให้ข้อเสนอและตัวเลือกสินค้าที่ดี, การสร้างประสบการณ์ด้านการรับสินค้า และการเป็นแบรนด์ E-Commerce ที่อยู่ในใจผู้บริโภค
จุดเด่นของการสร้างประสบการณ์ของลูกค้านั่นคือการมีสินค้าที่ตรงใจตรงกับความต้องการจำหน่าย โดยปัจจุบัน สินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือยังมียอดการขายบน iTrueMart มากถึง 70%, การมีช่องทางจ่ายเงินที่หลากหลาย และการจัดส่งที่รวดเร็ว โดยกรุงเทพส่งถึงมือใน 1 วัน ต่างจังหวัดใน 2 วัน
สิ่งที่เกิดขึ้นบน iTrueMart ก็คือ Traffic หรือการเข้ามาในเว็บไซต์ โดยพบว่าในปีนี้มีการเติบโตถึง 450% และมี Conversion Rate เฉพาะในปี 2015 โตมากถึง 4.2% ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมด้านนี้จะมีอยู่เพียง 2% ส่วนการ Re-Purchase จะมีเกิดขึ้นหลังจากการเข้ามาซื้อครั้งแรกสูงถึง 50% และเดือนต่อๆ มาจะเข้ามาซื้อ 20%
ส่วนหมวดของสินค้า ที่เริ่มต้นด้วยการขายด้านสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ตและ Gadget iTrueMart เริ่มขยายหมวดหมู่เอ็นในส่วนของกล้องและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเรียกหมวดนี้ว่า Hard Line ซึ่งก็ได้รับการตอบสนองที่ดีมากจากลูกค้าและมียอดการขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ได้มีการเพิ่มส่วนที่เป็น Soft Line ได้แก่สินค้าประเภทเครื่องสำอางค์ ซึ่งก็สามารถเพิ่มกลุ่มลูกค้าและยอดการสั่งซื้อได้มากขึ้นกว่าเดิม และหมวดล่าสุดที่เพิ่มขึ้นมาครั้งนี้คือ Moms and Kids เจาะกลุ่มแม่และเด็ก เพื่ออำนวยความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าสำหรับคุณแม่ที่ไม่สามารถออกจากบ้านเพื่อซื้อของได้เป็นเวลานาน
- กลุ่มลูกค้า iTrueMart ปัจจุบันคือกลุ่มนักศึกษา, First Jobber อายุ 24-34 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย การเพิ่มหมวด Soft Line ด้วยความหวังว่าจะเข้าไปเพิ่มให้สัดส่วนของผู้ซื้อสินค้าเป็นผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น
- กลุ่มลูกค้าตอนนี้ กรุงเทพฯ 60% ต่างจังหวัด 40% แต่ต่างจังหวัดมีการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างมาก
- การซื้อในแต่ละครั้งเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 บาทต่อครั้ง
- iTrueMart มองการหา Partner กับแบรนด์ ตัวที่ประสบความสำเร็จคือ Nivea ด้วยการเปิด E-Commerce ขายบนหน้าเว็บ เมื่อสนใจสินค้าก็จะมีการลิงก์กลับมาที่เว็บไซต์ iTrueMart ซึ่งถือว่าเป็นความไว้วางใจจากแบรนด์ที่มีกับ iTrueMart
- iTrueMart มองการมี Cross Broader หรือการสั่งซื้อสินค้าข้ามประเทศ ในอนาคตน่าจะมีและทำได้ง่ายขึ้น