แม้จะมีผู้ใช้ที่เข้ามาดู Facebook 8 พันล้านวิวต่อวัน แต่ส่วนใหญ่แล้ว กลับดูโดยไม่เปิดเสียง แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่า Engagement จะต้องลดลง
จากการสัมภาษณ์กลุ่ม publisher ซึ่งมียอดวิวเฉลี่ยอยู่ที่ 150 ล้านวิวในแต่ละเดือน พบว่าคนดูโดยไม่เปิดเสียงถึง 85% ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ Facebook ของกลุ่มสำนักข่าว ก็มีตัวเลขที่ไม่แตกต่างกันมาก
ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไร เพราะระบบวิดีโอใน Facebook นั้น ผู้ใช้ไม่ได้จำเป็นต้องเปิดเสียงอยู่แล้ว วิดีโอส่วนมากที่อยู่บนหน้าไทม์ไลน์มักจะมีตัวอักษร หรือพวกคำบรรยายประกอบอยู่แล้ว ทำให้คนสามารถดูได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเสียง
Gretchen Tibbits ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ LittleThings เล่าว่า มันเป็นเรื่องของจิตวิทยาตั้งแต่แรกอยู่แล้วที่ต้องดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคให้ได้ทันที ซึ่งสามวินาทีแรกนั้นคือจุดสำคัญ ดังนั้นวิดีโอจึงถูกสร้างให้สามารถดึงดูดได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เสียง
ถ้าหากมองในด้านแบรนด์ MEC ซึ่งเป็นมีเดียเอเยนซี่แชร์ว่า วิดีโอของแบรนด์ส่วนใหญ่ถูกดูโดยไม่เปิดเสียง 85-90% แต่ไม่ได้แปลว่าผู้บริโภคจะ engage น้อยลง จากการศึกษาพบว่าการการดูวิดีโอที่ไม่มีเสียง ไม่ได้ส่งผลต่อการเพิ่ม like และความอยากซื้อสินค้า
ผู้บริหารจาก GSD&M ก็ให้ความเห็นในเชิงเดียวกันว่า เสียงเป็นทางเลือก ไม่ใช่สิ่งจำเป็น ถ้าใครสามารถสร้างความน่าสนใจได้โดยไม่ต้องให้คนเปิดเสียง ก็ถือว่านำหน้าเจ้าอื่นที่ไม่ได้คิดแบบนี้แล้ว
แต่ที่กล่าวมานั้นต้องเป็นคอนเทนต์ที่ถูกสร้างไว้สำหรับแพลตฟอร์ม Facebook เท่านั้น ซึ่งมันจะต่างกับมีเดียที่ซื้อสำหรับโปรโมทวิดีโอโฆษณา เมื่อเปรียบเทียบ cost per view กับ YouTube แล้ว 9 ใน 10 ของราคาโฆษณาวิดีโอใน YouTube ถูกกว่า Facebook (เนื่องจากการคิดจำนวนวินาทีในการเห็นต่างกัน) จึงควรคิดดีๆ ในการเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสม ไม่งั้นก็อาจจะเสียเงินเปล่าได้
ที่มา : Digiday