สิทธิพิเศษของโอเปอร์เรเตอร์แต่ละค่ายต่างก็มีจุดเด่นต่างกันเลยนะคะ หากนึกถึง AIS ก็ต้อง Serenade ที่ให้สิทธิ์ลูกค้ากินหรูอยู่สบาย ถ้าเป็น Truemove ก็คงหนีไม่พ้นร้านกาแฟผสมโคเวิร์คกิ้งสเปซอย่าง ทรูสเฟียร์ พอเป็น dtac ก็จะนึกถึงส่วนลดบัตรดูหนัง ทั้งที่จริงแล้วแต่ละค่ายต่างก็อัดสิทธิพิเศษให้มากมายเลยนะคะ ไปที่ร้านไหนก็เจออยู่ที่ว่าใช้เครือข่ายไหนและได้แลกรับสิทธิพิเศษกันหรือเปล่า
ส่วนการเดินหน้าติดสปีดของ dtac reward ก็คือการเปิดโอกาสให้ลูกค้าทั้งเติมเงินและรายเดือนก็ใช้สิทธิพิเศษนี้ได้ โดยสื่อสารผ่านพี่ชายใจดี ขี้เล่น อย่างซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ หนุ่มฮอตของปีนี้ มาเป็นตัวแทนชักชวนให้ลูกค้าที่แอบปลื้มจิกหมอนกับพี่ชายคนนี้กล้าจะแลกรับสิทธิ์กันมากขึ้น โดยพี่สาวใจดีอย่างคุณเพ็ญพงา สุทธิมณฑล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารลูกค้า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เล่าให้ฟังว่า
ตอนนี้ dtac reward มีร้านค้าให้รับสิทธิพิเศษกว่า 2.5 หมื่นร้านแล้ว และจะพยายามให้ครบ 3 หมื่นร้านค้าในสิ้นปีนี้ โดยมี 3 กลุ่มหลักคือ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม สถานที่ท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ ซึ่งลูกค้าไม่ต้องเดินเข้าห้างอย่างเดียวถึงจะรับสิทธิ์ได้ แม้กระทั่งร้านค้าทั่วไป ตามสถานที่ท่องเที่ยวหรือโรงแรมต่างๆ ก็รับส่วนลดได้
“นอกจากตั๋วหนังใน sf cinema ที่ลูกค้า dtac มาใช้งานกันเยอะและนึกถึงเราเป็นอันดับแรกๆ แล้ว ร้านกาแฟ Cafe’ Amazon ก็เป็นพาร์ทเนอร์ที่ไว้วางใจเรามาก เรียกได้ว่าเราเป็นโอเปอร์เรเตอร์รายเดียวที่ได้รับสิทธิ์ในการแจกส่วนลดให้ลูกค้ากว่า 2 แสนสิทธิ์/เดือน ทั้ง 2,000 กว่าสาขาของร้าน”
ผลตอบรับในสิทธิพิเศษของ dtac reward ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เรียกว่าเรามีโฟกัสชัดเจนว่าลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการสิทธิพิเศษได้ทุกกลุ่ม ไม่จำกัดว่าจะต้องใช้ยอดให้ถึงเท่าไหร่ ไม่มีการแบ่งเกรดเพียงแค่สิทธิประโยชน์จะแตกต่างกันตามความเหมาะสม เพราะแต่ละสิทธิ์ร้านค้าก็ให้ใช้งานตามจำนวนที่จำกัด
ขณะนี้ dtac มีลูกค้าแต่ละระดับ ดังนี้ ลูกค้าซิลเวอร์อยู่ที่ 10 ล้านราย โกลด์ 2.3 ล้านราย บลูเมมเบอร์ 2.7 แสนรายและลูกค้าทั่วไป 11 ล้านราย รวมลูกค้าที่จะได้เข้ามาอยู่ในแคมเปญ Loyalty กว่า 12.5 ล้านราย การใช้สิทธิพิเศษนั้นจะเฉลี่ยไปในทุกกลุ่มบอกไม่ได้ชัดเจนว่ากลุ่มไหนใช้เยอะสุดแต่จำนวนลูกค้าซิลเวอร์มีเยอะที่สุดจึงทำให้ภาพรวมกลุ่มนี้มาใช้งานกันเป็นจำนวนมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ซึ่งหลังจากปล่อยกลยุทธ์ในการสื่อสารทั้งออนไลน์และออฟไลน์ออกไป คาดว่าจะมีลูกค้าจากทุกกลุ่มมาใช้งานเพิ่ม 30% โดย dtac หวังให้ลูกค้ากลุ่มเติมเงินมาใช้งานให้มากขึ้น
ส่วนการเลือกใช้ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์มาเป็นพรีเซนเตอร์นั้น ด้วยภาพลักษณ์ของเขาตลอดมาคือความกวน ขี้เล่น ประกอบกับมีผลงานภาพยนตร์ช่วงนี้ ยิ่งทำให้การสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เพราะ dtac ต้องการคนที่สามารถสื่อถึงความใจดี เพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้นและยิ้มกว้างขึ้น มาช่วยชักชวนคนที่ยังไม่เคยทราบว่าตนเองมีสิทธิพิเศษอะไรบ้างให้มาใช้สิทธิพิเศษเหล่านี้กัน เพราะการคืนสิทธิประโยชน์ของ dtac คือสิ่งที่มีบทบาทกับชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอนได้เลย
นอกจากนี้ dtac ยังเดินหน้าขยายสิทธิประโยชน์ไปยังร้านค้าในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว 20 จังหวัด ทุกภาคทั่วประเทศไทย เช่น ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี อยุธยา พิษณุโลก ขอนแก่น บุรีรัมย์ อุบลราชธานี สงขลา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ครอบคลุมที่พื้นที่ใช้งานอย่างแท้จริง
สำหรับกลยุทธ์ที่จะใช้ในแง่ของสื่อออนไลน์และออฟไลน์นั้น จะครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ภาพยนตร์โฆษณาทางทีวี โซเชียลมีเดีย Youtube แบนเนอร์ ป้ายโฆษณา เป็นต้น เพื่อตอกย้ำให้ลูกค้าไม่ว่าจะใช้ชีวิตในแง่มุมใดก็ต้องเห็นโฆษณาของเรา