เรื่องของความปลอดภัยทางไซเบอร์นั้น ยังคงเป็นปัญหาที่หลายฝ่ายให้ความกังวล กรณีล่าสุดคงหนีไม่พ้นการขโมยข้อมูลผ่านระบบบัญชีธนาคารที่ยังไม่สามารถตามหาผู้กระทำความผิดได้ เพราะเป็นการขโมยเงินในยอดเงินที่ไม่สูงแต่มีผู้เสียหายแล้วกว่า 40,000 บัญชี
นายปริญญา หอมเอนก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอซิส โปรเฟสชั่นนัล เซ็นเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า “เหตุการณ์แบบนี้เกิด 5-6 ปีแล้ว ปกติคนเราใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต ทั้งในเว็บไทยและต่างประเทศ ในการใช้ชีวิตและสั่งซื้อของออนไลน์ ปัจจุบันมีการรับสเตทเม้นออนไลน์ ไม่ได้เป็นจดหมายที่เป็นกระดาษเหมือนเดิม อาจทำให้ผู้ใช้หลงลืม ไม่ตรวจเช็คความผิดปกติของทรานเซ็คชั่นต่างๆ ทำให้ตัวเลขความเสียหายจะเกิดขึ้นครั้งละ 30-100 บาท มารู้ตัวทีหลังก็สูญเงินไปเป็นหลักพันบาท เเละต้องโทรไปที่ธนาคารเพื่อขอให้คัดยอดและต้องใช้เวลานาน ส่วนจะหลุดจากธนาคารได้หรือไม่ ก็ค่อนข้างยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้”
แนวทางแก้ปัญหาก็คือ ควรแยกบัญชีเพื่อซื้อของแบบออนไลน์ จะมีเพียง 1 บัญชีธนาคารเท่านั้น ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการซื้อของออนไลน์ต่างๆ ผูกกับบัญชีธนาคารเพื่อจ่ายเงินซื้อสินค้า และจำกัดวงเงิน หากมีเวลาก็ทำให้บัญชีมีวงเงินเป็นศูนย์ไว้ตลอดเมื่อจะซื้อสินค้าก็ค่อยทำการโอนเงินเข้าบัญชีให้ระบบตัดเงิน หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะได้ไม่กระทบกับเงินของเราทั้งหมด ส่วนบัตรเครดิตก็ใช้วิธีการล็อคหรือจำกัดวงเงินไว้
“ระบบป้องกันในประเทศไทยดีขึ้น แต่เราก็ต้องระวังว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นซักวัน คิดว่าเราต้องอยู่กับมัน ยอมรับเสียหายได้แค่ไหน ก็จำกัดวงเงินอาไว้ หมั่นตรวจเช็คความผิดปกติของบัญชีการเงินอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเกิดเหตุจะได้แก้ปัญหาได้ทันท่วงที”
แนวโน้มความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ปี 2022-2024 ประกอบด้วย
- Digital Inequality and Cyber Vaccination
- Supply Chain Cyber Attacks and CMMC
- Remote Working Challenge and Zero Trust
ทั้งนี้ ปัญหาของสิ่งที่ทุกคนยังคงเจอต่อไป ก็คือ อีเมล รูปแบบโซเชียลเอ็นจิเนียริ่งหรือฟิชชิ่ง โดยอาศัยความกลัวและความโลภของมนุษย์, แรนซัมแวร์ และ การโจมตีระบบองค์กร ที่ทำให้ระบบล่ม
ทั้ง 3 ประเด็นแนวโน้มได้เริ่มปรากฏขึ้นบ้างแล้ว และจะค่อยๆ มากขึ้นเรื่อยๆ
ที่มาเพิ่มเติม