“11Street” บุกตลาดไทยอย่างเป็นทางการพร้อมเปิดตัวเลขยอดซื้อขายตั้งแต่ 21 ธันวาคม 2559 ถึงปัจจุบัน โดยระบุว่ามีกว่า 200 ล้านบาทแล้ว ขณะที่ตัวเลขสมาชิกนั้นพบว่ามีถึง 150,000 ราย ส่วนสินค้านั้นมีกว่า 3 ล้านชิ้นใน 8 หมวดผลิตภัณฑ์ โดยในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการนี้ บริษัทได้ดึงสองคนดังอย่าง “ซงจุงกิ” และนางเอกสาว “มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อให้เข้าถึงใจผู้บริโภคด้วย
แม้จะ Soft Launch มาสักระยะแล้ว แต่ในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ 11street ในวันนี้ก็เป็นงานที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับตลาด e-Commerce ไทยที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยยักษ์ใหญ่จากต่างชาติ โดยฮง โชล จอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 11street ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยความเชี่ยวชาญและความสำเร็จที่ผ่านมาจากการเป็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งในเกาหลีใต้ เรามั่นใจว่า11streetจะขึ้นมาเป็น Online Marketplace เบอร์หนึ่งในใจคนไทยได้เช่นกัน”
โดยสินค้า 8 หมวดของ 11Street นั้นได้แก่ เครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ไฟฟ้า สุขภาพและความงาม เด็กและทารก นันทนาการและกีฬา ของใช้ในบ้าน สินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงอี-วอเชอร์และหนังสือ
นอกจากนี้ 11Streetยังจับมือกับแรบบิท มีเดีย เผยโฉมโฆษณาสุดล้ำเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ รถไฟฟ้า BTS สถานีสยาม ชิดลม และพร้อมพงษ์ด้วย ซึ่งได้แก่ โฆษณาบนสถานีและขบวนรถไฟฟ้า โฆษณาที่ติดตั้งในพื้นที่พิเศษ อาทิ ป้ายสถานีและบริเวณโดยรอบ และเสียง Jingle ของ 11Streetหลังจากประกาศชื่อสถานี ซึ่งทางบริษัทเผยว่า ใช้งบการตลาดสำหรับแคมเปญฉลองการเปิดตัวนี้ไปสูงถึง 300 ล้านบาทเลยทีเดียว โดยฮง โชล จอน ให้เหตุผล 3 ข้อในการเปิดตัวแบรนด์ในเมืองไทยว่า
“ตลาด SEA ถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตด้าน e-Commerce สูงมาก ซึ่งไทยเป็นประเทศหนึ่งใน SEA ที่ต้องการแพลตฟอร์ม e-Commerce ที่มีความน่าเชื่อถือ อีกทั้งสัดส่วนผู้ใช้งานอุปกรณ์สื่อสารของไทยก็มากเป็นอันดับต้น ๆ ของภูมิภาค ที่ประมาณ 80% ทาง 11Street จึงมองเห็นศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce และเปิดบริการในไทยนั่นเอง”
ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบตลาด e-Commerce ไทยกับเกาหลีใต้แล้วนั้นพบว่า ส่วนแบ่งของไทยยังค่อนข้างห่างเมื่อเทียบกับของมูลค่าของตลาด e-Commerce ในเกาหลีใต้ ที่มีมูลค่า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในเกาหลีใต้ ส่วนแบ่งของตลาดการค้าออนไลน์นั้นมีอยู่ประมาณ 14% ของการค้าปลีก ขณะที่ในประเทศอย่างเยอรมนีอยู่ที่ 10% แต่สำหรับไทยนั้นอยู่ที่ประมาณ 1% เท่านั้น
“คาดว่าสำหรับตลาดไทยแล้ว สัดส่วนดังกล่าวจะเติบโตขึ้นเป็น 5% ได้ภายใน 5 ปี ซึ่งการจะเติบโตในระดับนั้นได้ ก่อนอื่นอาจต้องดึงพาร์ทเนอร์อย่าง SME ต่าง ๆ ที่อยู่ในระบบ Offline ให้มาอยู่บนระบบออนไลน์ให้ได้ก่อน” นายฮง โซล จอน กล่าว
แคมเปญรับ Grand Opening
นอกจากนี้ 11Street ยังวางแผนลงทุนในประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวแคมปัสอีกสองแห่งในกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นศูนย์บริการครบวงจรสำหรับผู้ขาย และมีการร่วมมือกับพันธมิตรมากมาย เช่น ในส่วนบริการจัดส่งนั้น มีพันธมิตรสองค่ายนั่นก็คือ ไปรษณีย์ไทย กับ Kerry Express ให้บริการ ส่วนด้านการชำระเงิน ก็มีทางเลือกชำระเงินที่หลากหลายจากธนาคารชื่อดังของไทย นอกจากนั้นยังมีแคมเปญในช่วง Grand Opening ด้วยการนำเสนอสินค้าไอทีในราคาพิเศษที่ 11, 111, 1,111 และ 11,111 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 22 กุมภาพันธ์ 2560 โดยลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกซื้อสินค้ายอดนิยมที่หมุนเวียนมาลดราคาได้ที่ 11Street โดยสินค้าไฮไลท์ ได้แก่ ธัมป์ไดรฟ์ 8 GB Kingston (11 บาท), หูฟังบลูทูธ Bluedio (111 บาท), โทรศัพท์มือถือ Huawei Y3II 4G LTE (1,111 บาท), เครื่องซักผ้าฝาหน้า Electrolux (11,111 บาท), โทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy A5 (11,111 บาท), คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก Asus K455LA-WX724D ขนาด 14 นิ้ว (11,111 บาท) และอื่นๆ อีกมากมาย
ขณะที่อีกแคมเปญหนึ่งคือ Daily Check In ที่เชิญชวนลูกค้า 11Street มาร่วมเช็คอินที่แพลตฟอร์มกันทุกวัน โดยคลิกที่ปุ่ม ‘Check In’ ได้ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นเวลา 11 วันติดต่อกัน ตั้งแต่วันนี้ – 26 กุมภาพันธ์ 2560 เพื่อสะสมและรับสิทธิพิเศษมากมาย ซึ่งนักช้อปคนใดที่เช็คอินกับอีเลฟเว่นสตรีท เป็นเวลา 3, 7 และ 11 วันติดต่อกันจะได้สิทธิ์รับคูปองส่วนลด 11 เปอร์เซ็นต์ด้วย และลูกค้าผู้โชคดี 300 ท่านแรกที่เช็คอินที่ 11Street ครบตามกำหนด 11 วัน จะได้รับคูปองส่วนลดมูลค่า 300 บาทเพิ่มทันที
โดยผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.11street.co.th หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “11street Thailand” ใน App Store หรือ Google Play หรือผ่านช่องทางอย่าง www.facebook.com/11street.TH/ และ www.instagram.com/11streetth ก็ได้เช่นกัน