ปัจจุบันการใช้งาน Voice over IP หรือ VoIP กลายเป็นเรื่องที่ธรรมดาในสายตาหลายคน เนื่องจากถ้าจะพูดถึงเทคโนโลยีตัวนี้แล้ว ก็ใช่ว่าจะมีมาไม่นาน หากแต่ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ก็เริ่มมีการใช้กันมาอย่างแพร่หลาย ซึ่งหากจะพูดถึงการใช้งาน VoIP แล้ว ผู้ให้บริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตัวหนึ่งคงไม่พ้นขาใหญ่วงการนี้อย่าง “Skype” อย่างแน่นอน
และ ณ ปัจจุบันที่เทคโนโลยีตัวนี้แพร่หลาย Skype เองก็เติบโตและก้าวหน้าไปไกลมาก จนเรียกได้ว่าไปกินส่วนแบ่งตลาดของผู้ให้บริการในการโทรศัพท์ข้ามแดนเข้าซะแล้ว แล้วแบบนี้จะมีผลยังไงกับธุรกิจการโทรข้ามประเทศกันบ้างนะ…
ตามรายงานจาก TeleGeography ซึ่งมีผลสำรวจว่ายอดการใช้งานโทรศัพท์ระหว่างประเทศในปี 2010 ที่ผ่านมานั้น คิดเป็นร้อยละ 4 ของจำนวนการใช้งานโทรศัพท์ทั้งหมด ซึ่งตกลงมากจากปีก่อนซึ่งมีการใช้งานอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5
ซึ่งสาเหตุนั้นก็มาจากการที่คนเปลี่ยนการใช้งานจากการโทรศัพท์ด้วยโทรศัพท์พื้นฐานมาเป็นการใช้บริการอย่าง VoIP กันมากขึ้น โดยรายใหญ่อย่าง Skype นั้นมีการใช้งานระหว่างลูกค้าของตัวเองมากถึง 45,000 ล้านนาทีในปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว
ทำให้เกิดคำถามตามมาอีกว่า Skype และบริการ VoIP นั้นจะเข้ามาทำลายธุรกิจโทรคมนาคมหรือไม่ และมีแนวโน้มมากแค่ไหนที่จะทำให้ตลาดการโทรต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายได้ส่วนหนึ่งของผู้ให้บริการโทรศัพท์มีรายได้ที่ลดต่ำลงกว่านี้อีกหรือไม่…
ในความคิดเห็นของผู้เขียน: แน่นอนว่าหากลูกค้าสามารถเลือกได้ คงเลือกที่จะใช้งานบริการซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดหรือคุ้มค่าที่สุด ซึ่งแนวโน้มของคุณภาพการให้บริการของ Skype หรือผู้ให้บริการรายอื่นๆ นั้นก็มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีคุณภาพและความเร็วที่สูงขึ้น เหลือเพียงผู้ใช้บริการที่จะพยายามเปลี่ยนลักษณะการใช้งานเท่านั้น
ส่วนทางด้านผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานในปัจจุบันเอง ต่างก็เริ่มพากันลดราคาค่าบริการเพื่อให้สามารถสู้กับบริการ VoIP โดยมีการนำเอาเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูงและมีต้นทุนที่ต่ำลงมาช่วยให้บริการกับลูกค้าที่ไม่สะดวกที่จะใช้การโทรผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งสุดท้ายแล้ว ผู้เขียนคาดว่าทั้งคู่จะมาหยุดหรือพบกันที่ราคา ณ จุดๆ หนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดความสมดุลต่อตลาดผู้บริโภคในส่วนนี้ได้ในที่สุดครับ
ที่มา: PC Wolrd