เป็นดราม่าชามโตสำหรับ Burberry แบรนด์หรูที่เป็นข่าวใหญ่เมื่อสื่อตีข่าวว่า Burberry เลือกทำลายสินค้าในคลังทิ้ง แทนที่จะนำสินค้าไปทำประโยชน์ต่อสาธารณกุศล ผลคือข้อความประณามมากมายถูกส่งไปทั่วโลกโซเชียลแบบไฟลามทุ่ง กลายเป็นกระแสลบที่โจมตีว่า Burberry เป็นแบรนด์ที่เน้นจะเอาแต่รักษาภาพลักษณ์เท่านั้น
Burberry เป็นแบรนด์แฟชันสัญชาติอังกฤษที่ขึ้นชื่อเรื่องการพยายามหลีกเลี่ยงทุกทางไม่ให้แบรนด์เสื่อมเสีย ที่ผ่านมา Burberry ระมัดระวังอย่างมากเรื่องการไม่นำสินค้าในสต็อกมาลดราคา ทั้งเสื้อผ้า แฟชั่น น้ำหอม และเครื่องประดับอื่นที่ติดแบรนด์ Burberry
ไม่ลดราคาก็ไม่มีใครว่า แต่นี่เล่นนำสินค้าคงคลังมาทำลายแทนที่จะนำไปใช้ประโยชน์สาธารณะกุศล จุดนี้สื่อมวลชนตีข่าวว่า Burberry ต้องการป้องกันไม่ให้สินค้า Burberry ตกไปอยู่ในมือคนที่ไม่เหมาะหรือ wrong hands
There are people out there who can barely afford clothes and Burberry burnt £28 million worth of product because of complete snobbery.
Rich people make me want to throw up.
— Shelly?️? (@shelly_tompkins) July 19, 2018
Burberry: no, we won’t give our surplus stock to charity, because we don’t care about poor people, (and tarnishes our brand) but we will incinerate it in an ‘environmentally friendly way’ – you know what would’ve been the most environmentally friendly thing?! Giving it to charity
— •lina• (@agirlcalledlina) July 19, 2018
It’s utterly disgraceful that #Burberry would rather burn it’s product than do something useful with them. #ForShame I will never buy another Burberry product as long as I shall live. pic.twitter.com/74oLdwaCi9
— NinaChomskyLuchadora #SaveOurNHS #LBOM (@NinaWonderGirl) July 19, 2018
เรื่องนี้ สำนักข่าว BBC รายงานคำแถลงการณ์ของ Burberry ซึ่งระบุว่า Burberry ดำเนินการอย่างระมัดระวังในการลดปริมาณสต็อกส่วนเกินที่ได้ผลิตขึ้น เมื่อจำเป็นต้องกำจัดผลิตภัณฑ์ บริษัทก็จะทำเช่นนั้นอย่างเต็มความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน Burberry มีนโยบายแสวงหาหนทางในการลดขยะ และนำขยะนั้นกลับมาสร้างประโยชน์ใหม่อยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าปีที่ผ่านมา Burberry มีสัญญาณผิดปกติเนื่องจากต้องทำลายน้ำหอมจำนวนมาก หลังจากเซ็นสัญญาใหม่กับบริษัท Coty ในสหรัฐฯ แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้บริโภค ที่ไม่เห็นด้วยกับการเผาสินค้าล้นสต็อก ทำให้ Burberry ถูกมองว่าสร้างมลภาวะทางสิ่งแวดล้อมโดยไม่รับผิดชอบใดๆ
มีคนชังก็ย่อมมีคนรัก แน่นอนว่า Burberry ก็มีฝ่ายที่หนุนหลังด้วยการบอกว่าถ้า Burberry โดนประณาม แบรนด์แฟชันอื่นก็ควรถูกประณามด้วย เพราะทุกแบรนด์ก็ใช้วิธีทำลายสินค้าในคลังเช่นกัน
I don’t find this shocking — of course Burberry and others burn stock — but I do find it disgusting. Waste and pollution just to preserve the artificial sense of scarcity these brands rely on https://t.co/2fj8WvZ5o6
— Mic Wright (@brokenbottleboy) July 19, 2018
If the fashion is to burn Burberry, I suggest everyone does so, and does not replace it.
When a company is so morally bankrupt that they deem protecting the brand more important than aiding humanity, you have to ask, what’s wrong with those people?— Benjamin Langley (@B_J_Langley) July 19, 2018
ถึงตอนนี้ Burberry ยังไม่มีแถลงการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวการเผาสินค้าล้นสต็อกที่คิดเป็นมูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐ แต่สิ่งที่เราสรุปได้จากปรากฏการณ์นี้คือผู้บริโภคผิดหวังหากพบว่าแบรนด์ที่ตัวเองซื้อ ไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางบวกในชุมชน ซึ่งกรณีของ Burberry ถือว่าแม้จะทำถูกหลักการบริหารแบรนด์ แต่พลาดท่าจนทำให้ภาพลักษณ์เสียหายหลายแสน
ที่มา: : PRDaily