นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดข้อมูลของคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชน ใน ศบค. ถึงแผนแนวทางการผ่อนปรนในภาคธุรกิจต่างๆ หลังจากการประกาศขยายเวลา พ.ร.ก. ฉุกเฉินอีก 1 เดือน ซึ่งแบ่งประเภทธุรกิจออกมาเป็น 4 สี ประกอบด้วย สีขาว, สีเขียว, สีเหลือง และสีแดง เพื่อจัดแบ่งเกณฑ์ระดับความเสี่ยงของสถานประกอบการ
สำหรับการผ่อนปรนจะยึดหลัก แบ่งเป็น 4 ระยะ ห่างกัน 14 วัน โดยการผ่อนปรนแต่ละระยะจะต้องเป็นสถานประกอบการที่เปิดได้พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับการเคลื่อนย้ายประชาชนข้ามเขต รวมทั้งมีการทบทวนและประเมินผลตลอดเวลา หากมีการแพร่ระบาดจะสั่งหยุดทันที
กลุ่มสีขาว ได้รับข้อยกเว้น
ไม่ต้องลงทะเบียนและดำเนินการออนไลน์ แต่ขอความร่วมมือในการดำเนินการตาม “ข้อปฎิบัติพื้นฐานที่ทุกสถานประกอบการต้องปฏิบัติ”
สถานประกอบการขนาดเล็ก อยู่ที่โล่งแจ้ง มีลักษณะเป็น หาบเร่ แผงลอย หรือ ไม่มีหน้าร้านเป็นหลักแหล่ง
กลุ่มสีเขียว ความเสี่ยงต่ำ
สถานประกอบการสามารถลงทะเบียนออนไลน์เพื่อเปิดสถานประกอบการ และต้องดำเนินการตามข้อปฏิบัติพื้นฐาน ตามคู่มือสำหรับสถานประกอบการ (รายประเภท)
สถานประกอบการขนาดเล็ก ติดแอร์ หรือไม่ติดแอร์ ไม่มีการสัมผัส เช่น ร้านขายหนังสือ ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายของทั่วไป ร้านขายวัสดุ ก่อสร้าง เป็นต้น
กลุ่มสีเหลือง ความเสี่ยงกลาง
สถานประกอบการสามารถลงทะเบียนออนไลน์เพื่อเปิดสถานประกอบการ และต้องดำเนินการตามข้อปฏิบัติพื้นฐาน แต่ต้องรอการตรวจสอบจากองค์กรปกครองส่วนท้อง
สถานประกอบการขนาดเล็กและใหญ่ เช่น ตลาดนัด ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า ร้านตัดผม คลินิกความงาม คลินิกทำฟัน
กลุ่มสีแดง ความเสี่ยงสูง
ปิดการดำเนินการจนกว่าจะมีมาตรการหรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่แสดงให้เห็นว่ามีความปลอดภัย
สถานประกอบการที่อยู่ในสถานที่ปิด และเป็นแหล่งแพร่เชื้อ เช่น ผับ บาร์ สนามกีฬา ร้านอินเทอร์เน็ต สถาบันกวดวิชา
หมายเหตุ “ข้อปฏิบัติพื้นฐาน” คือการวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย ทำความสะอาด มีเจลล้างมือ การเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร มีอากาศถ่ายเท และจำกัดจำนวนคน เป็นต้น