จำนวน Like บน Facebook ถือเป็น 1 ในสิ่งที่ผู้ใช้งานหลาย ๆ คนและเจ้าของแบรนด์อยากจะได้จากคนที่เป็นแฟนบนหน้า Page เสียเหลือเกิน ส่วนหนึ่งก็คือการเพิ่มโอกาสในการบอกข่าวสารที่เจ้าของ Page ต้องการจะบอกได้รวมทั้งสามารถที่จะบอกต่อให้กับคนที่เป็นเพื่อนของเพื่อนได้รับรู้จาก Ticker ด้านข้าง
การโพสต์ข้อความจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของ Page ต้องทำอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเนื้อหาที่เรามักจะเห็นก็จะเป็นข้อความที่ต้องการสื่อแบบธรรมดาและไปในทางเดียว (One-Way communication) และทำให้สร้างความผูกพันหรือ Engagement กับผู้ที่มาติดตามได้น้อย… แล้วประโยคหรือคำว่าอะไรบนข้อความโพสต์ที่จะสามารถเพิ่ม Engagement บนหน้า Page ได้?
คำ 3 คำที่เรามักได้ยินและได้ใช้อยู่บ่อยๆ บน Facebook ก็คือ Like, Comment, Share ซึ่งทั้งหมดก็คือสิ่งที่จะสร้าง Engagement บน Facebook ได้นั่นเอง ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของบทความแปลที่เกิดจากการวิเคราะห์จากทาง HubSpot ที่นำข้อความโพสต์มากกว่า 1.2 ล้านข้อความบน Page ที่มีจำนวน Like เยอะที่สุดกว่า 10,000 Page มาวิเคราะห์ว่าถ้ามีคำใดคำหนึ่งใน 3 คำนี้ในข้อความจะมีอัตราการสร้าง Engagement สูงที่สุด
จาก Infographic มีการเปรียบเทียบกันระหว่างการโพสต์ด้วยข้อความที่มีคำว่า Like, Comment และ Share และไม่มี โดยพบว่า…
- หากมีข้อความที่มีคำว่า Like เช่น ชอบกด Like, ใครเห็นด้วยขอ Like หน่อย ในประโยค จะมีจำนวนการ Like สูงขึ้น 3 เท่าตัว ส่วน Comment และ Share ไม่เปลี่ยนแปลงมาก
- หากมีข้อความ Comment ก็จะมีการ Comment เพิ่มมากขึ้นหลายเท่า ส่วนจำนวน Like ก็เพิ่มขึ้นมานิดหน่อยแต่ Share จะน้อยลง
- และ หากมีข้อความ “ช่วยแชร์ด้วย” จำนวน Share ก็เพิ่มขึ้นราวๆ 2 เท่าเช่นเดียวกับ Like
ผลที่ได้บอกอะไรเรา? ก็คือผู้ใช้งานส่วนใหญ่แล้วจะทำตามที่เราเขียนบอกไปว่าเราต้องการให้ทำอะไรต่อ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดเสียทีเดียวนะครับ…เอ๊ะยังไงกัน
สิ่งที่ต้องการจะบอกคือ ข้อความโพสต์และคำที่ไว้สร้าง Engagement เพียงอย่างเดียวไม่ใช่เหตุผลหลักที่จะทำให้เกิด Engagement ได้ รูปภาพหรือ URL หรือวิดิโอ ก็สามารถเป็นสิ่งที่จะทำให้สร้าง Engagement ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเราก็เข้าใจกันว่ารูปภาพนั้นสามารถสื่อสารกับคนได้มากกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสิ่งที่เราอยากจะสื่อด้วยครับ ดังนั้นแล้วข้อสรุปของผลการวิเคราะห์ใน Infographic จึงบอกไม่ได้ทั้งหมดว่าเมื่อรวมทุกอย่างแล้ว อาจจะเกิดผลที่ทำให้แตกต่างไปกว่าเดิม
มีตัวอย่างให้ดูเล่นๆ อันนึงครับ เขาใช้ข้อความว่า “ชอบรูปด้านซ้ายให้กด Like แต่ถ้ารูปชอบด้านขวาให้กด Share” ผลที่ได้ก็คือ จำนวน Like มากกว่า 10 เท่า
สุดท้ายแล้วผลการวิเคราะห์ทั้งหมดนี้ก็สามารถที่จะเป็นนอกเหนือจากผลที่ทดสอบกันมาได้ หากว่าเนื้อหาของข้อความที่เราพิมพ์ไปมีคุณภาพและสื่อความหมายมากพอที่จะสามารถทำให้คนทำตามโดยไม่ต้องมีคำ 3 คำนี้เลยก็เป็นได้ ดังนั้นผู้ดูแล Facebook Page จึงควรที่จะหันมาใส่ใจและดูแลข้อความหรือสิ่งที่เราต้องการสื่อสารออกไปให้มีคุณภาพด้วยนะครับ เพราะถ้าดีก็ดีไป แต่หากเกิดความผิดพลาดบนโลกออนไลน์ขึ้นมา มันตามไปแก้ไขยากเย็นเหลือเกิน และชื่อเสียงอาจกู้ไม่กลับแล้วก็เป็นได้ครับ
ที่มา: FBAdvance