แม้จะผ่านช่วงฝุ่นหนาแน่นที่สุดในประเทศไทยมาแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าฝุ่นหมดไปจากประเทศ เพราะแม้ค่าในแอพที่กรมควบคุมมลพิษจะบอกให้เรารู้ว่าอากาศสดใส หากไปสัมผัสจริงจะเห็นเลยว่ายังมีฝุ่นปกคลุมในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในตัวเมืองที่มีคนอาศัยหนาแน่น ดังนั้นจึงไม่ควรประมาท
แน่นอนว่า สินค้าที่กลายเป็นที่ต้องการของประชาชนมากในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นหน้ากาก ที่อยู่ดีๆ ก็มีความต้องการหนักมากจนขาดตลาดกันเลย วันนี้ Thumbsup ได้สอบถามเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ไปทาง 3M ผู้ผลิตหน้ากากป้องกันฝุ่น PM2.5 และได้บทสัมภาษณ์จาก คุณโสภาพรรณ ไทยอาจ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ประจำภูมิภาคพื้นเอเชียตะวันอกเฉียงใต้ บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด มาเป็นผู้ตอบคำถามเกี่ยวกับช่วงที่ผ่านมาค่ะ
สถานการณ์ฝุ่น สร้างโอกาสทางธุรกิจของ 3M อย่างไรบ้าง
คุณโสภาพรรณ เล่าว่า จากสถานการณ์มลพิษฝุ่นPM 2.5 ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความต้องการของหน้ากากที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังช่วยกระตุ้นความสนใจในเรื่องของการหาข้อมูลความรู้ของประชาชนเกี่ยวกับภาวะมลพิษฝุ่นละออง การสวมใส่หน้ากากให้มีมากขึ้น
ขณะเดียวกันเรามองเห็นว่า ยังมีช่องว่างของเรื่องความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ 3เอ็ม มองเห็นว่า เป็นโอกาสดีที่ทุกหน่วยงานในสังคม ไม่เพียงแต่รัฐบาล ภาคเอกชนผู้ผลิตหน้ากาก หรือแม้แต่สื่อจะสามารถร่วมมือกันเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนถึงการตระหนักถึงปัญหาเรื่องมลพิษที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อหาแนวทางแก้ไขและป้องกัน
หากเกิดปัญหาฝุ่นควรรับมืออย่างไร
ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ประกอบด้วย การเผาไหม้ของรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล, การเผาวัสดุทางการเกษตร, ไฟป่า และกระบวนการอุตสาหกรรม ซึ่งจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกๆปี
ข้อมูลทางวิชาการ ระบุ ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เกิดขึ้นการเผาไหม้จากรถยนต์เครื่องดีเซล ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี จากปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลในการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก
ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลครั้งนี้ (ปลายปี 2561 ต่อเนื่องต้นปี 2562) รุนแรงและกระจายวงกว้างเป็นเวลายาวนานกว่าทุกครั้ง ประชาชนเองก็ตื่นตัวที่จะใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น และได้รับข่าวสารต่างๆมากมายทั้งที่เชื่อถือได้และไม่น่าเชื่อถือ
ดังนั้น การเตรียมรับมือ ควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกตัวอาคาร, หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง, กลุ่มเสี่ยง (เด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ, หญิงตั้งครรภ์, มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ, โรคเยื่อบุจมูกอักเสบ, โรคผิวหนัง, โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด) ควรหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน
ในแง่ของ 3เอ็ม เอง เรามุ่งเน้นในด้านการให้ข้อมูล ตลอดจนให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน
ทำความรู้จักหน้ากากแต่ละประเภท
จากข้อแนะนำของหน่วยงานราชการ ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรปกป้องตนเองโดยการใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง N95 ซึ่ง3เอ็ม มีผลิตภัณฑ์หลายรุ่น เช่นรุ่น 8210, 8110S, 9010, 9211, 9105, 9105S แต่เนื่องจากความต้องการหน้ากากของประชาชนมีมาก ทำให้การกระจายผลิตภัณฑ์สู่ผู้บริโภคอาจทำได้ไม่ทั่วถึง
ดังนั้น ในภาวะเช่นนี้ 3เอ็มแนะนำหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กรุ่นอื่นๆ เพื่อใช้ทดแทนได้แก่ รุ่น 8812 (FFP1), รุ่น 8822 (FFP2), รุ่น 9310+ & 9312+ (FFP1) ตามมาตรฐานยุโรป, รุ่น 9320+ & 9322+ (FFP2) ตามมาตรฐานยุโรป และรุ่น 9001V (P1) ตามมาตรฐานออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์
หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ทุกรุ่นของ 3เอ็ม ได้ผ่านการทดสอบด้วยอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอน ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกือบ 10 เท่า
ข้อแนะนำ หากจำเป็นต้องเดินทางออกนอกที่พักอาศัย หรือต้องทำกิจกรรมในพื้นที่เสี่ยง ควรสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ทุกครั้ง พร้อมควรศึกษารายละเอียดวิธีการสวมใส่ การดูแลรักษาที่ถูกต้อง และตรวจสอบความกระชับขณะสวมใส่ทุกครั้ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
แก้ปัญหาของขาดตลาดอย่างไร
เพราะรู้ว่าประชาชนกังวล ทำให้บริษัทมีการประชุมประสานงานร่วมกันกับทุกฝ่าย เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ปัจจุบันเรามีฐานการผลิตอยู่ในหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่ฐานการผลิตใหญ่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นภายในประเทศไทย เพราะความต้องการเพิ่มสูงขึ้นแบบรวดเร็ว ทางบริษัทเองก็ได้เพิ่มปริมาณการนำเข้าหน้ากากกันฝุ่นละออง PM 2.5 เฉลี่ยกว่า 4 แสนชิ้น/สัปดาห์
ทั้งนี้ ยังได้กระจายหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ไปยังช่องทางหลักของบริษัทฯ ทั้งผ่านตัวแทนจำหน่าย และช่องทางออนไลน์ได้แก่ร้านค้าทางการบนแพลทฟอร์ม 3M Delivery, SHOPEEและ LAZADAภายใน 24 ชั่วโมงหลังสินค้านำเข้ามาถึงประเทศไทย และผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน เพื่อเร่งกระจายสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคโดยเร็วที่สุดให้ทันต่อความต้องการที่มาจากทุกช่องทาง
ให้ความรู้แก่ประชาชน ลดความกังวลอย่างไร
บริษัทจะมุ่งเน้นเดินหน้าสื่อสารสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภค (ทั้งในแง่ของตัวผลิตภัณฑ์ และผลกระทบจากปัญหามลพิษที่เกิดขึ้น)
นอกจากนี้ ยังเน้นให้ความสำคัญต่อการเติบโตที่มั่นคงยั่งยืน โดยการมุ่งเน้นเสมอมาถึงการให้ความสำคัญในการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การพัฒนาความสามารถทางด้านเทคโนโลยี ศักยภาพทางด้านการผลิต และเครือข่ายที่มีกระจายอยู่ทั่วโลก เพื่อสร้างความหลากหลาย ทั้งด้านนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและความคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม
แน่นอนว่าเรื่องของสภาพอากาศไม่ว่าใครก็ควบคุมไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือต้องมีสติและค่อยๆ คิดหาทางออกกันนะคะ