ไม่ว่าเมืองไทยจะเคยมีฟีเวอร์ใดมาก่อน แต่ #ไข่มุกฟีเวอร์ ถือเป็นหนึ่งในฟีเวอร์แรงที่หลายแบรนด์พยายามเกาะกระแสบนโลกออนไลน์ ถามว่าแบรนด์เหล่านี้ใช้วิธีไหนบ้างเพื่อจะได้ไม่ตกเทรนด์ คำตอบเห็นได้ชัดจาก 4 วิธีนี้ที่ถูกลงมือทำแล้วและได้ผลน่าพอใจทีเดียว
1. อินโฟกราฟฟิกบอกแคลเลอรี่
แบรนด์กลุ่มความงามหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนบางแห่งเกาะกระแส #ไข่มุกฟีเวอร์ ด้วยการทำอินโฟกราฟฟิกรวมแคลเลอรี่ให้อ่านง่าย แม้จะเป็นข้อมูลแคลเลอรี่แบบคร่าวแต่ก็สามารถเรียกความสนใจได้ไม่น้อย
2. รวมภาพอาหารไข่มุก
กลยุทธ์นี้เห็นชัดในเพจอาหาร หรือชุมชนนักชิมอาหารที่ต้องการเรียกความสนใจด้วยภาพแปลกตาของไข่มุก แทนที่จะอยู่ในถ้วยชา เพจกลุ่มนี้จะรวบรวมเมนูไข่มุกมาให้ทุกคนได้เห็น เพื่อกระตุ้นต่อมอยากลองให้ทุกคนส่งต่อไปชวนเพื่อน
3. วิดีโอไข่มุกเด้ง
แทนที่จะมีภาพนิ่งให้ชมเท่านั้น หลายเพจจัดทำเป็นวิดีโอซึ่งฉายให้เห็นความเด้งดึ๋งของเมนูไข่มุกฟีเวอร์ สะท้อนว่ามีการรีวิวจริง มีการบอกตำแหน่งร้านค้าให้ผู้สนใจไปลิ้มลองจับต้องอาหารได้
4. สีสันแหวกแนว
เมื่อมีเมนู #ไข่มุกฟีเวอร์ แจ้งเกิดมากมายทั่วโซเชียล เพจของร้านชาไข่มุขตัวจริงจึงหันมาใช้วิธีสร้างจุดต่างในชาของตัวเอง แทนที่จะเป็นไข่มุกสีดำปกติ วันนี้ไข่มุกมีนวัตกรรมเป็นสีสดใหม่แล้ว เรียงตัวกันอยู่ในถ้วยรูปทรงใหม่ที่สร้างความแตกต่างให้โดดเด่นได้โดยที่ไม่ได้พิสดารเท่าเมนูไข่มุก โพสต์ลักษณะนี้ได้รับความนิยมแชร์ต่อมากเป็นพิเศษ
5. ยืนยันว่าอร่อย
แถมให้อีกข้อ คือวันนี้เพจร้านอาหารหรือเจ้าของกิจการบางแห่งใช้ประโยชน์จากกระแส #ไข่มุกฟีเวอร์ ด้วยการพัฒนาเมนูสำหรับเสิร์ฟในร้านแบบจริงจัง โดยยืนยันว่าตั้งใจพัฒนาสูตรอาหารขึ้นใหม่และมั่นใจว่าหากใครได้ลิ้มลอง ก็จะชื่นชอบเมนูไข่มุกเช่นกัน
วิธีการโหนกระแสเหล่านี้อาจจะถูกนำมาใช้กับปรากฏการณ์ “อาหารฟีเวอร์” อื่นอีกในอนาคต ถึงตอนนั้นขอให้ทุกคนลงมือสร้างเนื้อหาให้เด่นให้โดนใจ ซึ่งจะทำให้คนไทยแชร์ทั่วโลกออนไลน์อีกแน่นอน.