ใครบอกว่า “เงินหายาก” กันคะ ในเมื่อเงินอยู่รอบตัวเรา ขอเเค่เห็นโอกาสเเละทักษะพร้อม เราก็รวยได้ทันที ก่อนที่จะรู้ว่าธุรกิจไหนที่น่าลงทุนต้องบอกก่อนว่า
สิ่งที่มีค่าที่สุดในการดำเนินธุรกิจให้รวยนั่นก็คือ “ ความรู้ ” ยิ่งปัจจุบันที่มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยสงครามธุรกิจ เราก็ต้องยิ่งหาความรู้เพื่อเป็นผู้รอดในสงครามเดือดครั้งนี้ให้ได้
ฉะนั้นถ้าใครอยากเป็นผู้รอดลองศึกษา 5 ธุรกิจที่ “แอบรวย” ในยุคนี้กันค่ะ นอกจากมูลค่าตลาดสูงเเล้ว คู่เเข่งยังน้อยอีก
1. Live streaming
Live streaming ก็คือการไลฟ์สดนี่หละค่ะเเต่ฟังก์ชั่นการ Live จะเต็มรูปเเบบกว่า Live ผ่านเเพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Facebook, Youtube ถ้าให้เห็นภาพชัดขึ้นก็คือการที่ Workpoint เอารายการที่อัดเทปไว้เเล้วมา Live สดบน Facebook ไม่ใช่การถ่าย Live ตอนกำลังอัดรายการ
ซึ่งการที่เเบรนด์จะมาใช้ระบบ Streaming ได้จะเป็นช่องใหญ่เช่น ช่องรายการบันเทิง รายการต่างๆ เเคสเกม ซึ่งธุรกิจนี้มีคู่เเข่งน้อยมากๆ ค่ะเพราะคนที่ทำระบบนี้จะต้องมีทักษะด้านคอมพิวเตอร์สูงเเละเครื่องมือพร้อม รายได้ต่องานตกที่ 50k ขึ้นไป ใครที่ทำงานใกล้เคียงสายนี้ลองศึกษา Live Streaming ดูนะคะ
2. Media Agency
ในปี 2019 คาดว่าเงินโฆษณาทั่วโลกสะพัดถึง 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในไทยเองก็มีเอเยนซี่ผุดขึ้นมามาย เเต่เอเยนซี่ที่มารองรับ Ads ตรงๆ ค่อนข้างมีน้อย
เพราะหลายเอเยนซี่เลือกที่จะรองรับ ทุกฟังก์ชั่นของงานดิจิทัล ทั้งดีไซน์ คอนเทนต์ ยังไม่ค่อยมี Ads analytic โดยตรงเพราะบริษัทที่ใช้ Ads เยอะๆ จะเป็นบริษัทสายคอนโด อสังหา
ซึ่งในไทยยังมีรองรับไม่มาก ทำให้เป็นโอกาสดีถ้าใครพร้อมทั้งความรู้เเละจำนวนคน Media Agency ถือเป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
3. Brandname Business
ธุรกิจหลัก 10 ล้านสำหรับสาวๆ ที่หลงใหลของเเบรนด์เนม ธุรกิจนี้ไม่ได้กว้างขวางมากนักเพราะไม่ใช่ใครๆ ก็มาทำได้หรือเเค่รวยก็ทำได้ เเต่เป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือในวงการเเบรนด์เนม
ถ้าให้เห็นภาพคืออยู่ดีๆ เราจะเดินไปซื้อหลุยส์รุ่นลิมิเต็ดในช็อป ต่อให้มีเงินก็ไม่ได้นะคะ เเต่ต้องมีเครดิตที่ดีซึ่งเกิดจากการสั่งสินค้ากับเซลล์ของหลุยส์บ่อยๆ เเละเป็นจำนสนเงินที่สูงมาก ทางเซลล์ถึงจะปล่อยสินค้ารุ่นลิมิเต็ดให้
ซึ่งธุรกิจล่าสุดตอนนี้คือการผ่อนของเเบรนด์เนม โดยเจ้าของจะได้เงินจากดอกเบี้ยที่เก็บต่อเดือนกับลูกค้า ซึ่งบอกเลยค่ะว่าความต้องการของกระเป๋าเเบรนด์เนมสูงมากๆ เพราะเป็นของคู่ใจสาวๆซึ่งปัจจุบันมูลค่าตลาดเเฟชั่นสูงถึง 18,000 ล้านบาท เเละยังเติบโตขึ้นทุกๆ ปี
4. Cross border
ถึงตลาด E-commerce ในไทยจะเติบโตสูงมากเเต่ถ้าเทียบกับการเเข่งขันที่สูงขึ้นไม่ต่างกัน อาจไม่ใช่ผลดีต่อคนที่อยากกระโดดเข้ามาสงคราม E-commerce ก็ได้
ซึ่งไม่ใช่เเค่ในไทยเท่านั้นที่ E-commerce เติบโตเเต่เป็นทั่วโลก การเข้าไปเจาะกลุ่มต่างประเทศจึงเป็นการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ ซึ่งในไทยยังไม่ค่อยมีใครเข้ามาเล่นต่างประเทศมากนัก
เพราะความไม่เชี่ยวชาญเรื่องภาษีระหว่างประเทศเเละภาษา ทำให้เป็นโอกาสสำหรับนักธุรกิจที่อยากเปิดตลาดใหม่ๆ เเละมองเห็นศักยภาพของสินค้าตนเอง
หรือถ้ากลัวต้นทุนจมก็สามารถลดต้นทุน ด้วยวิธีรับออเดอร์ก่อนจะได้ไม่ต้องสต๊อคสินค้าเเละลดความเสี่ยง ประเทศจีนเป็นกลุ่มที่น่าสนใจที่สุดเพราะเเคมเปญ 11.11 จีนกวาดรายได้ไปกว่า 1 ล้านล้านบาท เป็นมูลค่าสูงที่ถ้าใครมีทักษะในการค้า E-Commerce ต้องกระโดดเข้าไปเล่นให้ได้
5. Workshop
ธุรกิจที่เติบโตในไทยได้ไม่นานเเต่จะเห็นได้เยอะเกี่ยวกับธุรกิจการตลาดออนไลน์หรือดีไซน์ ซึ่งข้อดีคือเหมือนเข้าปลุกตลาดงานฝีมือให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น
โดยในไทย Workshop งานคราฟต่างๆ เเต่ละคอร์สตกที่ 2,500-6,000 (ราคาขึ้นอยู่กับประเภท) คอร์สละ 20 คน เปิดคอร์ส 1 ครั้งก็ได้รายได้ถึง 50,000 บาท
เป็นธุรกิจที่นำความรู้เเละความสามารถเราไปหารายได้ทั้งเสริมเเละหลักเเถมรายได้มหาศาลอีกด้วย
ตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีธุรกิจอีกมากที่น่าสนใจเเละรายได้ดี เพียงเเค่มีความคิดอยากจะต่อยอดเเละกล้าจะที่จะผลักดันไอเดียที่ตนเองมีออกมาทำจริงๆ
เเละหากเกิดการเเข่งขันสูงขึ้น จะเป็นการสร้างมาตรฐานให้ธุรกิจนั้นๆ ไปสู่ประสิทธิภาพสูงสุดเเละนำมาซึ่งลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นพร้อมรายได้ที่สูงเช่นกัน