การทำการตลาดออนไลน์ผ่านวีดีโออาจฟังดูไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่เชื่อหรือไม่ว่าคลิปวิดีโอยังคงเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมและมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากไม่เสื่อมคลาย โดยเว็บไซด์ WebRocketVideo.com ได้รวบรวมข้อมูลที่สะท้อนเหตุผลที่ทำให้การตลาดผ่านวีดีโอยังคงร้อนแรงตลอดเวลาได้อย่างน่าสนใจ
เหตุผลแรกคือเพราะวีดีโอรวมไปถึงมัลติมีเดียต่างๆคือเครื่องมือในการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถสื่อสารถึงผู้รับได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย โดยจากสถิติในปี 2012 ผ่านมาพบว่ามีจำนวนผู้เข้ามาชมวีดีโอแบบออนไลน์มากถึง 169.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่าปี 2011 อยู่ 7.1%
การสำรวจยังแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการใช้วีดีโอในการทำการตลาดแบบออนไลน์ ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยในเรื่องของความน่าเชื่อถือและการจดจำแบรนด์สินค้า โดยผู้บริโภคกว่า 52% รู้สึกว่าการดูคลิปวีดีโอสินค้าทำให้มีความมั่นใจในการซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้การใช้คลิปวีดีโอยังเป็นการกระตุ้นความสนใจในการซื้อสินค้า ซึ่งพบว่ากว่า 85% มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหลังดูคลิปวีดีโออีกด้วย
เหตุผลที่ 3 คือพฤติกรรมผู้ชมวิดีโอ โดยพฤติกรรมของผู้ชมวีดีโอจำนวนกว่า 62% ใช้เวลาดูคลิปวีดีโอเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องการจะซื้อมากกว่า 2 รอบขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เวลาดูอย่างต่ำ 2 นาที แต่ก็มีบางส่วน (37%) ที่ใช้เวลาดูคลิปวีดีโอมากกว่า 3 นาทีขึ้นไป
เหตุผลที่ 4 คือการใช้คลิปวีดีโอนั้นเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยเพิ่มจำนวนคนเข้าสู่เว็บไซด์ โดยเห็นได้ชัดเจนจากผลการเสิร์ชผ่าน Search Engine ที่พบว่าในผลการค้นหาใน 100 อันดับแรกเป็นคลิปวีดีโอมากถึง 70% ซึ่งผลจากการเสิร์ชนี้เองจะเป็นตัวกลางที่นำคนเข้าเว็บไซต์ได้มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
เหตุผลที่ 5 คือยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้พฤติกรรมของผู้ที่เข้ามาดูคลิปเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ซึ่งปีที่แล้ว (2012) มีผู้เข้ามาดูคลิปวีดีโอผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเป็นจำนวนกว่า 54.6 ล้านคน โดยวิดีโอจัดอยู่ในครึ่งหนึ่งของ Mobile Traffic เลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่เข้ามาดูคลิปสินค้าหรือเกี่ยวกับการซื้อสินค้าเป็นหลักและกว่า 49% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนยังดูคลิปวีดีโอเกี่ยวกับสินค้าผ่านเว็บไซต์วีดีโอชื่อดังอย่าง Youtube, Vimeo หรือ Dailymotion อย่างน้อย 1 ครั้งภายในเวลา 3 เดือนอีกด้วย
ทั้ง 5 เหตุผลนี้เป็นคำตอบที่ทำให้ 76% ของนักการตลาดยังคงให้ความสำคัญกับการใช้วีดีโอมาเป็นลำดับแรกในวันนี้ ซึ่งบางรายยกวิดีโอเป็นตัวช่วยอันดับแรกที่ควรมาก่อนเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook, Twitter รวมไปถึง Blog เสียอีก
ที่มา: Visual.ly