เขียน thumbsup มา 4 ปีเต็ม ไม่เคยมีตอนไหนรู้สึกจั๊กกะเดียมเหมือนเขียนพาดหัวตอนนี้เลยผับผ่าครับ (พาดหัวรู้สึกเหมือนเขียนปลุกใจขายตรงชะมัด) จริงๆ แล้วแค่อยากจะรวบรวมแนวคิดส่วนตัวที่ผมใช้ตอนก่อนที่จะร่วมสร้าง thumbsup มาแชร์ครับ ตอนนี้ใครเป็นบล็อกเกอร์น่าลองอ่านครับ
- คุณบ้าอะไร เอาความบ้านั้นมาใช้ รู้ก่อนว่าตัวเองชื่นชอบอะไร บ้าอะไร คลั่งอะไรขนาดที่ให้ทำฟรีๆ ก็เอา ไม่ต้องจ้างก็ได้ จากนั้นจงศึกษาเรื่องนั้นอย่างจริงจังลงมือทำจนเชี่ยวชาญเราจะเล่าเรื่องนี้ได้คล่อง อย่างผมเองเป็นคนชอบเขียนหนังสือมาก ให้เขียนฟรีๆ ก็เอา สมัยเรียนหนังสือก็เขียนการบ้านวิชาเรียงความส่งแทนเพื่อน เพราะเพื่อนขี้เกียจเขียน เขียนไปเขียนมารู้สึกชอบ เลยลองเอาความบ้านั้นมาแปลงเป็นการเขียนเรื่องธุรกิจดิจิทัล และการตลาดเสียเลย
- รู้ก่อนว่าคนอื่นชื่นชอบอะไร แล้ว market size ใหญ่พอไหม ถ้าเรารู้ตัวเองแล้วว่าชอบเขียนอะไร แต่ถ้าไม่รู้ว่าคนอ่านต้องการอะไร ตลาดต้องการอะไร ก็ไร้ประโยชน์ ผมแนะนำว่าคุณต้องมีตลาดของตัวเอง และรู้ว่าตัวเองจะไปมีอิทธิพลหรือสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดของคุณได้อย่างไรเช่น เพื่อนผมคนนึงชื่อวรพล วรพลเป็นคนที่ชื่นชอบการเลี้ยงสุนัขมากๆ แต่ไม่รู้มันเป็นอะไรต้องเลี้ยงแต่สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ พอถามก็จะตอบได้เป็นคุ้งเป็นแควว่าพันธุ์นี้ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอสืบๆ ไปปรากฏว่ามีคนชอบไซบีเรียนฮัสกี้มากพอที่จะทำเป็นธุรกิจเป็นเรื่องเป็นราว ปัจจุบันเลยทำฟาร์มไซบีเรียนฮัสกี้ซะเลย ได้ข่าวว่ากิจการรุ่งโรจน์ 🙂 (ถ้าไม่มีตลาดก็สร้างได้ แต่ต้องอาศัยเวลา)
- แตกต่าง มีใครทำหรือยัง ถ้ายังไม่มีก็ลุยแต่ถ้ามีแล้วเค้ายังขาดอะไร มีอะไรที่เราทำได้ดีกว่ามากๆ (แค่ดีกว่าไม่พอ แต่ต้องดีกว่ามากๆ)
- มองหาสูตรการนำเสนอของตัวเอง แล้วใช้เครื่องมือ digital ของเราเล่าเรื่อง การนำเสนอบนโลกออนไลน์ คนจะชอบคนที่มีเอกลักษณ์ มีสไตล์ของตัวเอง อยากให้ลองดูตัวอย่าง รายการ Wine library ของ Gary Veynerchuk นะครับเขาใช้ VDO เล่าเรื่องไวน์ของตัวเองได้เข้าท่ามากๆ เพราะเขาเล่าเรื่องไวน์แนวฮาๆ มันส์ ไว้ถึง 1,000 ตอนก่อนจะปิดตัวลง แล้วไปเปิดบริษัทดิจิทัลเอเยนซี่ของตัวเอง เพราะตัวเองก็ดังแล้ว
- ถ้าคุณไม่มีเรื่องใหม่จะเล่า ก็ไม่เป็นไร แค่มีวิธีใหม่ๆ ในการเล่าที่แตกต่างก็พอ เวลาคุณเขียนบล็อกไป คุณจะมีวันที่ ‘ตัน’ เขียนอะไรไม่ออก ให้คุณหยุดสักพัก หาแรงบันดาลใจใหม่ แต่ถ้าไม่มีเวลา คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องหาเรื่องใหม่มาเล่า แค่ลองหาวิธีเล่าเรื่องเก่าแต่นำเสนอด้วยวิธีใหม่ก็พอ เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่อยากจะเสพย์เรื่องราวเดิมๆ ในแบบใหม่ๆ เช่น สมัยเราเด็กๆ ฟังเพลงรักแกรมมี่ คีตา อาร์เอส อย่างไรมันก็เพลงรัก แต่ทำไมมีเพลงให้เราฟังได้เป็นพันเป็นหมื่นเพลง?
เกี่ยวกับคอลัมน์ Digital tips: สมัยนี้เวลาคนเราน้อยลง การอ่าน Best Practice ต่างๆ ใน thumbsup จะช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้น แต่ Best Practice ที่เขียนกันมาทีนึงก็ย๊าวยาว (ใครจะมีเวลาอ่านอะไรยาวๆ ถ้าอย่างนั้น?) จะดีไหมถ้ามีคอลัมน์รายสะดวก (รายสัปดาห์ ถ้าเป็นไปได้) ในการแชร์ประสบการณ์เชิง tips & tricks ของคนทำงานธุรกิจดิจิทัลแบบสั้นๆ อ่านได้ง่ายจบในไม่กี่อึดใจ ไม่เยิ่นเย้อ แต่ตกตะกอนมาแล้ว ก็คงจะเป็นประโยชน์กับ thumbsupers ไม่มากก็น้อย