นักธุรกิจชื่อดังหลายๆ คน มักเริ่มต้นธุรกิจจากสิ่งที่ตัวเองรักและหลงใหลก่อน เพราะไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อย ต่อสู้ดิ้นรนมากแค่ไหนก็จะไม่ท้อง่ายๆ ยิ่งมีคนที่คอยช่วยกันสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกันในวันที่ยากลำบาก (จะเป็นผู้ร่วมสร้างธุรกิจ หรือพนักงาน ก็แล้วแต่) ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น วันนี้เราจึงมาพร้อมกับปัจจัย 5 ประการที่เราควรมองหาในตัวของเขาหรือเธอ
1. มีทักษะที่เสริมกัน – ในบริษัทๆ หนึ่ง ผู้ก่อตั้งธุรกิจมักจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญมาแล้วด้านใดด้านหนึ่ง แต่ในเมื่อไม่มีใครเป็นพหูสูตรไปเสียทุกเรื่อง ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมหากเราจะมองหาผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจที่มีทักษะอะไรที่เราไม่มี หรือทักษะที่เสริมกัน โดยที่เราไม่ต้องไปจัดซื้อจัดจ้างคนอื่นมาให้สิ้นเปลือง เช่น เราจะเปิดบริษัทด้านการทำเว็บไซต์ คนหนึ่งก็ควรจะเก่งด้านการออกแบบ ในขณะที่อีกคนสามารถเขียนโค้ดได้ หรืออีกคนมีความสามารถในการขาย แทนที่จะต้องเอางานส่วนใดส่วนหนึ่งให้คนนอกองค์กรทำ
2. มีวิสัยทัศน์ และเป้าหมายเดียวกัน (ที่มากไปกว่าการทำเงินสูงสุด) – การสร้างธุรกิจใหม่ คนที่จะเป็นพันธมิตรกันก็ควรจะมีวิสัยทัศน์ หรือมุมมองที่คล้ายกัน ทำให้ธุรกิจมีเป้าหมายเดียวกันที่มากไปกว่าการสร้างรายได้สูงสุด เช่น เราตั้งใจที่จะทำธุรกิจร้านจักรยานร่วมกัน เพราะเรามองว่าคนควรจะได้ปั่นจักรยานดีๆ และเราเองก็หลงใหลในสิ่งนั้น เราจึงคิดใหม่ทำใหม่ มองหาช่องทางที่จะทำให้คนมีประสบการณ์ในการปั่นจักรยานที่ดีมากยิ่งขึ้น มากกว่าอยากจะเปิดร้านจักรยานเพราะคิดว่าจะทำรายได้มาก และเราพอทำได้
3. ให้เกียรติ และไว้เนื้อเชื่อใจในกันและกัน – คนทำงานด้วยกันถ้าปราศจากความไว้เนื้อเชื่อใจ ให้เกียรติกันและกัน จะทำอะไรกันทีต้องมีเอกสารทุกสิ่งทุกอย่าง หรือพูดจากันไม่รื่นหู การดำเนินงานก็จะไม่สามารถเป็นไปได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้เรายังควรจะคิดได้ว่าคนที่จะมาร่วมสร้างธุรกิจกับเรานั้นจะมาเป็นกำลังร่วมสร้างธุรกิจกับเราจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ด้วยกันหรือไม่ คนๆ นี้ก็จะช่วยเราทุกๆ ทางให้งานของเราสำเร็จ
4. มีพันธะร่วมกันว่าจะต้องเดินไปให้สุด – นอกจากจะเกื้อหนุนกันในแง่ความสามารถ และไว้เนื้อเชื่อใจกันแล้ว อีกอย่างคือจะต้องมีพันธะสัญญา หรือที่เราชอบทับศัพท์กันว่า commitment ว่าเราจะต้องเดินไปด้วยกันให้ได้ บางคนถึงจะดูกันมาดีแล้วก็ตามว่ามีทักษะที่แตกต่างกัน และน่าจะช่วยให้บริษัทไปได้ตลอดรอดฝั่ง แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับมีระดับของความทุ่มเทที่ไม่เท่ากัน บางคนอาจจะอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง แต่ในเวลาก่อร่างสร้างธุรกิจ จะต้องใช้เวลาเยอะ อันนี้มันต้องเสียสละกันจริงๆ จังๆ ว่าที่ผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจของคุณก็ควรจะมีข้อนี้
5. มีต่อมทำ มากกว่าต่อมคิดนิดหนึ่ง – การสร้างธุรกิจส่วนใหญ่ที่ไปกันไม่ได้ไกลเป็นเพราะเราคิดเยอะเกินไป คิดว่าทุกอย่างจะต้องออกมาสมบูรณ์แบบจนไม่ได้ทำ แต่ที่เราบอกคุณว่าผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจควรจะมีต่อมทำ มากกว่าต่อมคิดสักนิดหนึ่งเป็นเพราะถ้าเราลงมือทำอะไรใหม่ๆ มันก็จะมีการลองถูกลองผิด และมีโอกาสที่จะได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่าคนที่คิดไป รำไป สิ่งที่เราคิดก็มักจะอยู่ในหัวเราแต่ไม่ได้หลุดออกมาสู่โลกความเป็นจริงสักที
และนี่คือ 5 ข้อที่เราอยากให้คุณลองใคร่ครวญก่อนที่จะก่อร่างสร้างธุรกิจกับใคร แต่ถ้าหากคุณยังไม่มีคนๆ นั้น ก็อาจจะลองเปิดตัวเองออกไปหาพันธมิตรธุรกิจใหม่ๆ อย่างที่สถาบันการเงินจะจัดให้มีการจับคู่ทางธุรกิจกันอยู่เนืองๆ ซึ่งล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยก็จัดงานจับคู่ธุรกิจ ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ SME ลองดูคลิปด้านล่างนี้ก็จะเห็นภาพเลยว่า ธุรกิจของเรานั้นสามารถขยายออกไปได้ไกลขึ้น หากเราคิดจะลอง ‘เปิดใจ’ ให้กับอะไรใหม่ๆ บ้าง
K SME เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ที่สนใจ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายธุรกิจ K SME ได้แล้ววันนี้ คลิก https://goo.gl/fhSgQR
บทความนี้เป็น advertorial