เชื่อว่ามาถึงจุดนี้หลายคนคงมีภูมิต้านทานกับโลกดิจิทัลกันระดับหนึ่ง และแข็งแรงมากพอที่จะยอมรับความแตกต่างทางความคิดบนโลกออนไลน์กันไม่มากก็น้อย ซึ่งในปี 2018 ที่จะมาถึง เรายังไม่เห็นว่า จะมีอะไรมาหยุดยั้งโลกดิจิทัลใบนี้ได้ ดังนั้นจึงมีแต่ตัวเราเองที่้จะต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อให้ผ่านมันไปได้อย่างปลอดภัย และสิ่งที่จะช่วยให้เราก้าวไปอย่างแข็งแกร่งนั้น อาจเริ่มจาก
1. Back up ข้อมูลให้เป็นนิสัย
ใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ดังนั้นจึงอาจต้องบอกว่า แม้จะมีสมาร์ทโฟน – โน้ตบุ๊กที่ดีและไว้ใจได้แล้ว แต่ก็อย่ามั่นใจจนเกินไปว่ามันจะไม่มีวันพัง หรือสูญหาย ที่บอกเช่นนี้เพราะสมาร์ทโฟนสำหรับบางคนแทบจะเป็นทุกอย่างของชีวิต รวมถึงเป็นฮาร์ดดิสก์ด้วย ซึ่งคงไม่สนุกแน่หากสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นบังเอิญพัง ตกน้ำ หรือถูกขโมย ดังนั้นพยายามแบ็คอัปข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้ให้เป็นกิจวัตรค่ะ
2. เปิดใจให้กว้าง ทดลองสิ่งใหม่ ๆ
จริงอยู่ที่โลกเราซับซ้อนมากขึ้น และการใช้ชีวิตให้ง่าย สะดวกก็เป็นสิ่งที่เราทุกคนฝันหา ผลก็คือหลายคนติดแหง็กอยู่กับการเป็นสาวกของแบรนด์บางแบรนด์ ใช้แต่เทคโนโลยีที่เราคุ้นเคย เพราะเห็นว่ามันสะดวกสบายดีอยู่แล้ว จะไปลองสิ่งใหม่ ๆ ทำไม
แต่บางทีการเปิดใจลองสิ่งใหม่ ๆ ก็อาจทำให้เราพบว่า เครื่องมือแต่ละชนิดก็มีความแตกต่าง และสามารถใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้ทั้งสิ้น สมมติเช่น เคยเป็นผู้ใช้เสิร์ชเอนจินของ Google มาตลอด การลองใช้ Bing ของ Microsoft ก็อาจทำให้เราพบว่า ถึง Bing จะหาข้อมูลได้ไม่เก่งเท่า Google แต่ก็ถือเป็นช่องทางที่จะได้เจอกับคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่บางทีเราไม่เคยเจอบน Search Engine ของ Google เลยก็ได้ หรือเคยใช้แต่เงินสดมาตลอด ปี 2018 จะลองใช้ e-wallet กันดูบ้างก็อาจจะดี
3. ใช้ Social Media อย่างมีสติ
ถึงตอนนี้ทุกคนคงตระหนักดีว่าพลังของ Social Media นั้นรุนแรงขนาดไหน เรียกว่าขับรถขับราแทนที่จะกลัวตำรวจจับ แต่หลายคนกลับเป็นคนดีมากขึ้นเพราะกลัวว่าจะมีใครถ่ายคลิปไปโพสต์บน Social Media มากกว่าแล้วก็มี
สำหรับปี 2018 บทบาทของ Social Media ก็คงจะดำเนินต่อไปอย่างที่ไม่มีใครหยุดยั้งหรือขัดขวางได้ ทางที่ดีคือการใช้มันอย่างมีสติ คิดก่อนโพสต์ แล้วก็แยกแยะคอนเทนต์ว่าอะไรดีต่อใจ อะไรไม่ไหวก็ถอยออกมา หรืออย่างน้อยก็พยายามมองให้เห็นเรื่องดี ๆ ในโพสต์ของคนอื่น เพื่อจะได้มีสภาพแวดล้อมบน Social Media ที่ไม่ทำให้เกิดทุกข์ค่ะ
4. จำกัดเวลาการใช้หน้าจอต่าง ๆ
ข้อนี้อาจจะยากที่สุด และมีการพูดถึงมาแล้วหลายปี แต่น้อยคนที่จะหักดิบทำได้ ซึ่งสถานการณ์การใช้หน้าจอต่าง ๆ นั้น เราเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้งานหน้าจอต่าง ๆ เกินกว่าค่าเฉลี่ยที่ ETDA ทำการสำรวจ แต่สำหรับปีหน้า เป็นไปได้ว่าเราอาจต้องบาลานซ์การใช้ชีวิตกับการใช้หน้าจอมากขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดี และความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
5. สวม Fitness Tracker เอาไว้
ถ้าจะมีอุปกรณ์ Wearable อะไรที่แพร่หลายที่สุดในตอนนี้ก็คิดว่าคงเป็นเจ้า Fitness Tracker ซึ่งใครที่มีแล้วก็อย่าลืมสวม เพราะอย่างน้อยมันก็ช่วยบอกได้ว่า วันนี้คุณออกกำลังกายแล้วหรือยัง เดินมาแล้วกี่ก้าว อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่เท่าไร ซึ่งข้อมูลสุขภาพเหล่านี้ รู้แล้วดีมีประโยชน์ค่ะ
6. รู้เท่าทันภัยคุกคามบนอินเทอร์เน็ต
ในปีที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง WPP ยังตกเป็นเหยื่อ Ransomware กันมาแล้ว และเชื่อว่าในปี 2018 ภัยในลักษณะนี้ก็คงจะรุนแรงมากขึ้น สิ่งที่ทำได้คือถ้ามีโอกาส พยายามศึกษาวิธีรับมือภัยคุกคามเหล่านี้เอาไว้บ้าง ว่ามันจะเล่นงานได้จากจุดไหน อะไรบ้างที่เราควรระวัง เมลแบบไหนไม่ควรคลิก Link ที่แนบมา ไฟล์แบบไหนที่อันตราย การขออนุญาตจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ แบบไหนที่ไม่ควรให้
ขอให้ทุกท่านพักผ่อนกับครอบครัวในช่วงเทศกาลหยุดยาวปีใหม่อย่างมีความสุขนะคะ