การรู้ว่าสมองของมนุษย์ประมวลผลข้อมูลอย่างไร จะทำให้นักการตลาดสร้าง engagement กับกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น บทความนี้สรุปมาจาก Entrepreneur จะชี้ให้เห็นความลับ 6 ข้อของสมองมนุษย์ และประโยชน์ที่นักการตลาดจะได้รับความความรู้นั้น
ความลับข้อที่ 1
เราทุกคนยังมีสมองส่วนที่หลงเหลือมาจากยุคดึกดำบรรพ์ มันทำหน้าที่ควบคุมปฏิกริยาและอารมณ์ของเรา แถมยังสั่งการได้เร็วกว่าจิตรู้สำนึกหรือความรู้สึกส่วนเหตุผลเสียอีก Garner บอกว่า ปฏิกริยาจากสมองส่วนนี้จะเกิดขึ้นภายใน 3 วินาที หรือน้อยกว่านั้น เมื่อได้รับแรงกระตุ้น อารมณ์ของเราก็จะฝังตัวได้นานกว่าเหตุและผล
ประโยชน์สำหรับนักการตลาด
จงให้ความสำคัญกับสิ่งแรกที่คนเห็น สำหรับการทำการตลาดผ่านอีเมล ชื่อ Subject หรือพาดหัวควรจะดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้ทันที และมันจะต้องโดนใจ ตอบสนองความปรารถนา ความต้องการ และอารมณ์ของพวกเขา
สำหรับการทำบล็อก หรือคอนเทนต์บนออนไลน์ ต้องให้ความสำคัญกับเฮดไลน์ (บทความต้นฉบับแนะนำว่าคุณควรจะใช้เวลาในการเขียนพาดหัวพอๆ กับเนื้อหาส่วนที่เหลือ)
สำหรับคอนเทนต์ในเว็บไซต์ ควรทำให้หน้าเพจเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน และทำความเข้าใจได้ง่าย
ความลับข้อที่ 2
สมองชอบรูปภาพ อย่างที่ทราบกันว่าสมองของเราแปลความหมายของรุปภาพได้เร็วกว่าตัวหนังสือ มีสถิติบอกว่า 90% ของข้อมูลที่สมองประมวลผล คือรูปภาพ พูดง่ายๆ คือเราจะจดจำตัวหนังสือที่มากับภาพ มากกว่าตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว
ประโยชน์สำหรับนักการตลาด
ก็ใช้รูปภาพสิ! ฟังดูง่าย แต่ต้องทำให้มันพิเศษ บทความต้นฉบับแนะนำให้ดูตัวอย่างการใช้รูปภาพแคนดิดของแคมเปญ “Travel for Real” ที่จัดทำโดย Loews Hotels & Resorts
ความลับที่ 3
สมองของเราชอบรูปหน้าคน มีงานวิจัยระบุว่า มนุษย์ที่มีความสามารถในการมองเห็นอุปสรรคได้อย่างรวดเร็วและมีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์จะเป็นผู้ถูกเลือกให้อยู่รอดตามกฏของการคัดเลือกโดยธรรมชาติ (Natural selection) นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เราจดจำและชอบใบหน้าของมนุษย์ สมองส่วนที่ประมวลผลใบหน้าของมนุษย์จะอยู่ใกล้ๆ กับส่วนที่ประมวลผลอารมณ์
ประโยชน์สำหรับนักการตลาด
ใช้รูปคนจริงๆ ในการโปรโมท และพิจารณาใช้หน้าคนในหน้าแรกของเว็บไซต์ หรืออีเมลเพื่อผลักดันให้เกิดพฤติกรรมที่ต้องการ
จากการศึกษาที่ติดตามการกวาดสายตาของมนุษย์ พบว่าสมองของเราถูกตั้งค่าโดยอัตโนมัติให้มองไปที่หน้าคนเป็นอันดับแรก และไม่ใช่แค่นั้น เพราะเราจะมองไปยังที่ที่คนในรูปนั้นมองไปด้วย นั่นคือตำแหน่งที่ควรวางตัวหนังสือที่สำคัญๆ หรือถ้อยคำประเภท Call-to-action เอาไว้
ความลับที่ 4
สีสร้างอารมณ์ ในแง่ของการออกแบบ มันมีความสำคัญมากกว่าการจับคู่สีที่ลงตัวและดูดีเสียอีก เพราะสีที่ต่างกันจะสร้างอารมณ์ที่ต่างกัน นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยระบุอีกว่า 62 – 90% ของความรู้สึกเกี่ยวกับสินค้าล้วนถูกกำหนดโดย “สี” แต่เพียงปัจจัยเดียว
สีเหลืองกระตุ้นความตื่นตัว สีน้ำเงินสร้างความไว้วางใจ สีแดงสร้างความรู้สึกเร่งด่วน และทั้งหมดนี้เป็นแค่ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น
ประโยชน์สำหรับนักการตลาด
เบื้องหลังการเลือกใช้สีนั้นเป็นทั้งวิทยาศาสตร์และศิลปะ เพราะมันคือพื้นฐานของการตลาด และมันมีหน้าที่เหมือนปุ่ม Call-to-action ดังนั้น อย่าเลือกใช้สีแบบมั่วๆ
สีอะไรดีที่สุดสำหรับบริษัทของคุณ ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการสร้างแบรนด์แบบไหน วางตำแหน่งตัวเองอย่างไร และใครเป็นลูกค้า ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดคือการทดสอบว่าแต่ละสีส่งผลอย่างไร ก่อนที่จะเลือกใช้จริง
ความลับที่ 5
ชื่อเปลี่ยน พฤติกรรมเปลี่ยน มีงานวิจัยของ David R. Just และ Brian Wansink จาก Cornell University Food and Brand Lab ระบุว่า การกำหนดชื่อเรียกไซส์อาหารแต่ละแบบจะส่งผลต่อพฤติกรรมการกิน การเรียกสปาเกตตี้ที่เสิร์ฟในไซส์ปกติว่า “double-size” ทำให้กลุ่มตัวอย่างกินได้น้อยลง
ประโยชน์สำหรับนักการตลาด
ระมัดระวังการใช้คำให้ดี เพราะมันส่งผลต่อทัศนคติของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นชื่อผลิตภัณฑ์ คำอธิบายโมเดลการตลาด หรือออปชั่นต่างๆ สำหรับผู้บริโภค
ขอเสริมอีกนิดสำหรับข้อนี้ มันเป็นหนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่ต้องมีคนทำหน้าที่ Copy Writer หรือสร้างสรรค์คำ เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่แค่ทัศนคติของลูกค้าที่มีต่อสินค้า แต่มันคือภาพลักษณ์ของบริษัทเช่นกัน
ความลับที่ 6
เรากระหายการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ลึกๆ แล้วในใจของมนุษย์ เราปรารถนาที่จะเป็นเหมือนๆ กับคนอื่น Eric Hoffer กล่าวว่า “เมื่อใครบอกว่าเขามีอิสระที่จะทำสิ่งต่างๆ ที่ต้องการ มันมักจะหมายถึงการเลียนแบบคนอื่นๆ”
ประโยชน์สำหรับนักการตลาด
กำจัดความกังวล ส่งสัญญาณให้กลุ่มเป้าหมายเห็นว่าเราเป็นพวกเดียวกัน และสร้างความไว้วางใจ แนวคิดนี้จะส่งผ่านการสร้าง Testimonial จากลูกค้าคนอื่นๆ หรือกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายทำพฤติกรรมที่ต้องการ ด้วยการบอกว่าเมื่อทำแล้วจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนจำนวนมาก