Site icon Thumbsup

8 ศิลปินกับวิธีขายเพลงดิจิทัลแบบไม่ธรรมดา

อุตสาหกรรมเพลงดิจิทัลกำลังอยู่ในช่วงขาลง มีรายงานจาก Recording Industry Associationof America ระบุว่า 6 เดือนแรกของปี 2014 ยอดขายเพลงแบบดิจิทัลลดลง 14% แม้กระทั่ง iTunes ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน บรรดาศิลปิน (ทั้งที่เรารู้จักและไม่รู้จัก) จึงต้องทดลองช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ inc.com รวบรวมเอา 8 ศิลปินที่ขายเพลงในรูปแบบใหม่ๆ มาให้เราดูกัน จะมีใครบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

Thom Yorke จาก Radiohead เลือกที่จะเป็นพาร์ทเนอร์กับ BitTorrent เพื่อปล่อยอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองที่มีชื่อว่า Tomorrow’s Modern Boxes โดยตัวเขาเองได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “คนที่สร้างสรรค์งานควรจะเป็นคนที่ควบคุมการขายในช่องทางอินเทอร์เน็ตได้เอง  และการร่วมมือกับ BitTorrent ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ” พูดง่ายๆ คือ ไหนๆ ก็จะโดนเอาไปปล่อยบิตแล้ว ฉันขอเป็นคนปล่อยเองก็แล้วกัน นี่แน่ะ!

วง U2 เปิดตัวอัลบั้มใหม่บนเวที iPhone 6 ของ Apple เป็นของขวัญให้กับผู้ใช้งาน iTunes ทุกคน แต่ปรากฏว่าผู้ใช้งานไม่ได้ปลื้มกับของขวัญชิ้นนี้กันทุกคน สุดท้าย Bono นักร้องนำของวงต้องออกมากล่าวขอโทษ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเลวร้ายอย่างที่คิด เพราะนอกจากผู้ใช้งาน iTunes ที่ได้อัลบั้มนี้ไปฟังแบบฟรีๆ (แบบเต็มใจบ้างไม่เต็มใจบ้าง) จำนวน 500 ล้านแอคเคาท์แล้ว ก็ยังมีผู้ใช้งานที่อยากจะดาวน์โหลดมาฟังอย่างเต็มใจเป็นจำนวนถึง 26 ล้านคน

Jay-Z แรปเปอร์ชื่อดังถูกทาบทามให้เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กับ Samsung เพื่อที่จะปล่อยอัลบั้มล่าสุดของเขา Magana Carta Grail ให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Samsung เป็นเวลาล่วงหน้า 3 วัน ก่อนที่อัลบั้มนี้จะถูกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2013 งานนี้ Samsung จ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับแรปเปอร์ชื่อดังไปประมาณ 150 ล้านบาทเลยทีเดียว

ปี 2013 Beyoncé เปิดตัวอัลบั้มแบบสุดเซอไพรส์ เพราะไม่มีการโปรโมทล่วงหน้า ผลคืออัลบั้มดังกล่าวกวาดยอดดาวน์โหลดไปได้ 600,000 ครั้งภายในสัปดาห์แรก ถือว่าเป็นอัลบั้มที่ยอดขายถล่มทลายได้รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ iTunes เป็นวิธีการที่ศิลปินอีกหลายๆ คนไม่ควรลอกเลียนแบบ ถ้าไม่ใช่ตัวแม่อย่าง Beyoncé ก็ทำแบบนี้ไม่ได้นะ

ปี 2010 Prince เลือกที่จะสวนกระแสดิจิทัลด้วยการวางจำหน่ายอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า 20Ten ในหนังสือพิมพ์และนิตยสารทั่วยุโรป…อ่านไม่ผิดค่ะ เขาเอาแผ่นซีดีสอดไว้ในหนังสือจริงๆ งานนี้เลยเป็นการกระตุ้นยอดขายหนังสือพิมพ์ และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการขายอัลบั้มดังกล่าวในช่องทางออนไลน์…เปรี้ยวมั้ยล่ะ

Nine Inch Nails จัดคอนเสิร์ต แต่คงไม่ได้จัดเพื่อเปิดตัวอัลบั้ม เพราะมันธรรมดาเกินไป แฟนเพลงในคอนเสิร์ตนี้ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่ามี USB Drive ที่บรรจุซิงเกิ้ลเด่นจากอัลบั้ม Year Zero วางอยู่ในห้องน้ำ ปรากฏว่าเพลงนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าเป็นการตั้งใจให้หลุดมากกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ

Flaming Lips อาจจะเอาแบบอย่างการปล่อยเพลงด้วย USB Drive มาจาก Nine Inch Nails โดยในปี 2011 พวกเขาใส่ Gummy Song Skull ซึ่งเป็นอัลบั้มพิเศษ (Extended Play) ลงไปใน USB แล้ววางไว้ในขนมเยลลี่รูปหัวกะโหลก ขายกันในราคา 4,500 บาทเชียวนะ

นี่ก็สวนกระแสอีกราย เราอาจจะพูดได้เต็มปากว่า Wu-Tang Clan เป็นวงแร็ปที่ไม่สนใจยอดขายเท่าไรนัก อัลบั้มล่าสุดของพวกเขา “Once Upon a Time in Shaolin” ทำออกมาแค่ 1 ชุด โปรโมทด้วยการเดินสายเล่นเพลงนี้ตามพิพิธภัณฑ์และงานแสดงศิลปะต่างๆ และอัลบั้มนี้จะเป็นของผู้ที่ประมูลโดยให้ราคาสูงสุดเท่านั้น  ซึ่งก็คาดว่าจะเกิน 7 หลักอยู่เหมือนกัน