เอคเซนเชอร์ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ ให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ดิจิทัล การบริหารเทคโนโลยีและการปฏิบัติการ เผยเทรนด์เทคโนโลยี วิชั่น 2018 เผยเทคโนโลยีเดินหน้าเร็ว องค์กรต้องฉลาดและตามให้ทัน รวมทั้งต้องอยู่บนพื้นฐานของภาวะผู้นำแบบใหม่ด้วย รวมทั้งการใช้ AI มาสร้างการเติบโตของธุรกิจจะช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ
นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า รายงาน Accenture Technology Vision 2018 ในแต่ละปี จะเป็นการจับเทรนด์เทคโนโลยีแต่ละปีเพื่อประเมิณว่าในอีก 3 จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะในรอบปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเรื่องของกระแส AI ที่องค์กรนำมาใช้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน หรือ Analytics ขั้นสูงที่นำมาวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้ละเอียดกว่าเดิม รวมทั้งนวัตกรรมอีกหลายอย่างที่เข้ามาเปลี่ยนให้ชีวิตสะดวกสบายกันมากขึ้น
ยกตัวอย่าง Amazon ที่ไม่เพียงมีฐานธุรกิจออนไลน์ขนาดใหญ่มหาศาล แต่ยังมีอุปกรณ์ Echo และเทคโนโลยีเอไอ Alexa เข้ามาช่วย สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของผู้คน จนถึงระดับที่ผู้พัฒนาสามารถสร้างล็อคเกอร์เฉพาะสำหรับ Amazon เอาไว้ที่อพาร์ตเมนต์ และให้บริษัทติดต่อที่บ้านได้ผ่านระบบสมาร์ทล็อก กิจการขนส่งต่างๆ สามารถนำสินค้ามาส่งไว้ได้ในเวลาที่ไม่มีคนอยู่
นอกจากนี้ เรายังเข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนาเทคโนโลยีล่าสุดที่มีลักษณะค่อนข้าง “เฉพาะ” เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นสองทาง ไม่ใช่แค่คนที่ซื้อสินค้าและบริการขององค์กรเท่านั้น แต่ยังมี Data กลับมาให้องค์กรนำไปพัฒนาและปรับปรุงสินค้าหรือบริการให้โดนใจกว่าเดิม ดังนั้น องค์กรเองควรที่จะรับผิดชอบต่อภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้า เพื่อการกลับมาซื้อสินค้าและบริการต่อเนื่อง
“การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าจะเป็นจุดแข็ง ที่ช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีและก้าวไปได้มากกว่าแค่เรื่องของการซื้อขายสินค้า”
นอกจากนี้ เทรนด์เทคโนโลยีที่มาแรงในปี 2018 ทั้ง 5 เรื่องที่องค์กรควรให้ความสำคัญ มีดังนี้
- สังคมแห่งเอไอ (Citizen AI): ยิ่งเอไอมีศักยภาพมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งส่งผลต่อชีวิตของผู้คนมากขึ้นเท่านั้น องค์กรที่ต้องการใช้ประโยชน์จาก AI ให้มีประสิทธิภาพที่สุด รวมทั้งตระหนักถึงผลกระทบของ AI ด้วย ควร “ยกระดับ” AI ให้มีฐานะเสมือนตัวแทนองค์กรที่ปฏิบัติการอย่างมีความรับผิดชอบ
- โลกเสมือนผสานโลกจริง (Extended Reality): เทคโนโลยีวีอาร์ (Virtual Reality) และเออาร์ (Augmented Reality) ได้เข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตและทำงานของผู้คน โดยตัดปัจจัยด้านระยะห่างระหว่างผู้คน ข้อมูล และประสบการณ์ออกไป และจะเห็นการนำมาใช้งานมากขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ
- คุณภาพของข้อมูล (Data Veracity): การที่องค์กรทำงานโดยขึ้นอยู่กับข้อมูลมากขึ้น ทำให้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงใหม่คือ ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ข้อมูลถูกดัดแปลง และเพิ่มอคติเข้าไปสู่ข้อมูลเชิงลึก (Insight) และการตัดสินใจที่เบี่ยงเบนไปจากสิ่งที่น่าจะเป็น องค์กรจึงจำเป็นต้องรักษาเป้าหมายทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไป คือทำให้ข้อมูลมีคุณภาพที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้เกิดการเบี่ยงเบนน้อยที่สุดด้วย
- ธุรกิจพัฒนาได้ต่อเนื่อง (Frictionless Business): องค์กรธุรกิจต่างต้องอาศัยความร่วมมือด้านเทคโนโลยีในการขับเคลื่อน ซึ่งระบบเดิมขององค์กรอาจไม่สนับสนุนการขยายความร่วมมือในทางที่ต้องการได้เสมอไป การผลักดันให้เกิดองค์กรอัจฉริยะ ต้องเริ่มจากการดีไซน์องค์กรแบบใหม่
- ระบบคิดที่เชื่อมต่อกัน (Internet of Thinking): องค์กรธุรกิจต่างคาดหวังประโยชน์ ที่จะได้รับจากสิ่งแวดล้อมระบบอัจฉริยะต่างๆ เช่น Robitics, AI และประสบการณ์เสมือนในโลกจริง การสร้างสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ไม่เพียงอาศัยบุคลากรและทักษะความเชี่ยวชาญใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังต้องทำให้โครงสร้างทางเทคโนโลยีที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีความทันสมัยขึ้นด้วย
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.accenture.com/technologyvision หรือติดตามทางแฮชแท็กในทวิตเตอร์ #TechVision2018