แบรนด์ผู้ให้บริการภาพรายใหญ่อย่าง Getty Images นั้นเคยเป็นข่าวเพราะแคมเปญระดับโลกหรือ global campaign เก๋ไก๋มาแล้วหลายครั้ง มาครั้งนี้ แคมเปญไม่ธรรมดาถูกสร้างสรรค์อีกผ่านภาพ 4 ใบหน้าบุคคลทรงอิทธิพลของโลก ซึ่งถูกตัดต่อจากภาพหลากหลายจากมหาสมุทรคลังภาพของ Getty Images จนสามารถประกาศจุดเด่นของบริการ Getty Images ได้อย่างชัดเจนน่าสนใจ
ผู้สร้างสรรค์แคมเปญล่าสุดให้ Getty Images คือ AlmapBBDO สัญชาติบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตงานเดียวกับแคมเปญชุด “From Love to Bingo” เมื่อปี 2012 และโฆษณาบนสิ่งพิมพ์ “20 Years” เมื่อปีที่ผ่านมา โดยทั้งคู่ถือเป็นแคมเปญโฆษณาที่ได้รับความสนใจมากเนื่องจาก Getty Images สามารถสร้างชื่อจากแคมเปญเหล่านี้ได้อย่างยั่งยืน
แคมเปญปี 2012 อย่าง “From Love to Bingo” นั้นใช้ภาพนิ่งมากกว่า 873 ภาพจากคลังของ Getty ในการบอกเล่าเรื่องราวน่าชมของชีวิตคนหนึ่งคนในเวลา 1 นาที ขณะที่ภาพโฆษณาสิ่งพิมพ์ “20 Years” นั้นแสดงใบหน้าของเซเลบชื่อก้องโลก 4 คนว่ามีริ้วรอยพัฒนาการอย่างไรตลอด 20 ปีผ่านภาพจำนวน 111 ภาพของเขาเหล่านี้
มาวันนี้ Getty Images ให้ชื่อแคมเปญล่าสุดว่า ”Endless Possibilities” ซึ่งสะท้อนถึงความอะเมซิ่งเรื่องการสร้างภาพใบหน้าเซเลบฯชื่อดังของโลกด้วยภาพใบหน้าคนอื่นที่เก็บไว้ในคลังภาพของ Getty โดยทั้งหมดเป็นภาพจากฐานข้อมูล creative stock-art database ที่ไม่ผ่านการตัดต่อ
4 เซเลบฯที่ถูกนำมาเป็นต้นแบบในแคมเปญนี้คือเจ้าฟ้าชายชาร์ล องค์ดาไลลามะ โป้ปฟรานซิส และนายกรัฐมนตรีเยอรมนี แองเจลา มาร์เคล ทั้งหมดนี้มีวิดีโอประกอบดูเพลินไม่น้อย
แนวคิดหลักของแคมเปญนี้คือการนำเสนอความหลากหลายของภาพที่ Getty Images ให้บริการหลายล้านภาพ เรื่องนี้ก็อปปี้ไรท์เตอร์อาวุโสของ AlmapBBDO อย่าง Daniel Oksenberg เล่าว่าทีมงานจึงคิดถึงการต่อยอดจากภาพเหล่านี้ ด้วยการนำภาพมาประกอบกันเหมือนยีนในมนุษย์ที่ทำให้ทุกคนมีรูปแบบใบหน้าที่ลงตัวไม่ซ้ำกัน
“ในเมื่อยีน 25,000 ชนิดสามารถทำได้ ภาพหลายล้านใบของ Getty Images ย่อมทำได้ด้วย และก็สามารถทำได้จริงๆ”
ทั้งหมดนี้ ทีมงานระบุว่าใช้เวลากว่า 4 เดือนในการวิจัยและทดลองภาพที่ต่างกัน โดยทีมงานต้องวิคราะห์ใบหน้าทุกบุคคล ก่อนจะนำมาค้นหาเพื่อให้ได้ภาพที่มีรายละเอียดตรงกับที่ต้องการทุกกระเบียดนิ้ว จุดนี้ต้องยกความดีให้กับ Getty Images ที่มีคอนเทนต์ยอดเยี่ยม ทำให้ทีมงานสามารถค้นหาภาพได้และประสบความสำเร็จเป็นแคมเปญนี้
ที่มา : Adweek