Site icon Thumbsup

สรุปสาระสำคัญจากงาน Adobe Summit 2022 ที่นักการตลาดและแบรนด์ สามารถนำไปพัฒนาสินค้าและบริการ

อะโดบี (Nasdaq:ADBE) เปิดงานคอนเฟอเรนซ์ Adobe Summit 2022 งานประชุมด้านประสบการณ์ดิจิทัล และดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมเผยโฉมนวัตกรรมใหม่ๆ บน Adobe Experience Cloud ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถรองรับ “เศรษฐกิจดิจิทัลในแบบเฉพาะบุคคล” ด้วยการปรับแต่งประสบการณ์ดิจิทัลให้เหมาะกับผู้บริโภคหลายล้านคนภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที การประชุม Adobe Summit 2022 จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ และขับเคลื่อนด้วยแอพพลิเคชั่น Adobe Experience Cloud งานนี้จะมีไฮไลต์อะไรน่าสนใจกันบ้าง

Personalization at Scale ขับเคลื่อนด้วย Adobe Experience Platform

แพลตฟอร์ม Real-time Customer Data

ความรวดเร็วของคอนเทนต์ และ Customer Journey ที่ไร้รอยต่อ

การเติบโตของอีโคซิสเต็มส์ของ Adobe Experience Cloud

ความสามารถด้านการจัดการประสบการณ์ลูกค้าของ Adobe Experience Cloud ได้รับการสนับสนุนจากอีโคซิสเต็มส์ระดับโลกที่ครอบคลุมแพลตฟอร์มของพาร์ทเนอร์มากกว่า 300 รายการบน Adobe Experience Platform อะโดบีประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับ The Weather Company และ IBM เพื่อปรับแต่งประสบการณ์ดิจิทัลแบบ Personalised โดยใช้ข้อมูลสภาพอากาศ ร่วมกับ OneTrust ช่วยจัดการคำยินยอมจากผู้ใช้ และ Anaplan แพลตฟอร์มที่ผสานรวมเวิร์กโฟลว์การจัดการด้านการเงินและการตลาดเพื่อรองรับการทำแคมเปญตามกรอบเวลาและงบประมาณที่กำหนด ส่วนความร่วมมือกับ Walmart, FedEx และ PayPal จะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถนำเสนอทางเลือกในการชำระเงิน และการจัดส่งสินค้า

75% ของบริษัทชั้นนำที่ติดอันดับ Fortune 100 ใช้งาน Adobe Experience Cloud Adobe ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Adobe Experience Platform เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของประสบการณ์ลูกค้าด้วยแอพพลิเคชั่นที่มุ่งเน้นการจัดการ Customer Journey ข้อมูลเชิงลึกและกลุ่มเป้าหมาย คอนเทนต์และการปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคล เวิร์กโฟลว์ด้านการค้าและการตลาด ทั้งนี้กว่า 90% ของลูกค้า Adobe Experience Cloud ที่ติดอันดับ Top 100 ใช้งานแอพพลิเคชั่นอย่างน้อย 3 แอพขึ้นไป Adobe Experience Platform ทำการประเมินเซ็กเมนต์กว่า 24 ล้านล้านครั้งต่อวัน และได้รับการสนับสนุนจากอีโคซิสเต็มส์ที่ประกอบด้วยพาร์ทเนอร์กว่า 4,000 ราย

นอกจากนี้ Adobe Summit 2022: ยังตั้งเป้าการเข้ามาช่วยสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลแบบ Personalization ผ่านนวัตกรรมใหม่ของ Adobe Experience Cloud เพิ่มประสบการณ์ Personalization ให้กับผู้บริโภคหลายล้านคนเพียงเสี้ยววินาที จาก 75% ของบริษัทชั้นนำที่ติดอันดับ Fortune 100 ใช้งาน Adobe Experience Cloud

อนิล จักราวาธี ประธานฝ่ายธุรกิจประสบการณ์ดิจิทัลของอะโดบี กล่าวว่า “ประสบการณ์ลูกค้าและ Journey ที่ต่อเนื่องนั้นสร้างจากอินไซต์ ดาต้า และเนื้อหาที่โดนใจผู้บริโภค ซึ่งทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น Adobe Experience Cloud เป็นเครื่องมือที่นำเสนอประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลในเศรษฐกิจดิจิทัล โดยช่วยเสริมศักยภาพให้แก่ทุกธุรกิจเพื่อเพิ่มการปฏิสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับลูกค้าผ่านทุกช่องทางดิจิทัล”

ผู้บริโภคมีความคุ้นเคยมากขึ้นต่อการทำกิจกรรมต่างๆ บนระบบออนไลน์ รายงานดัชนีเศรษฐกิจดิจิทัลของอะโดบี (Adobe Digital Economy Index) คาดการณ์ว่ายอดใช้จ่ายอีคอมเมิร์ซจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ ดังนั้นเพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถขยายกิจการให้เติบโตในสถานการณ์นี้ อะโดบีได้ประกาศลูกค้ารายใหม่ ความร่วมมือต่างๆ กับลูกค้า และการเติบโตของอีโคซิสเต็มส์ของ Adobe Experience Cloud

ลูกค้ารายใหม่ของอะโดบีวันนี้ได้แก่ BMW, บริษัท Coca-Cola, Coles, Dick’s Sporting Goods Epic Games, EY, General Motors, Major League BaseballTM, NASCAR, NVIDIA, Panera Bread, Real Madrid, ServiceNow, Suncorp, T.Rowe Price, TSB Bank, and Walgreens Boots Alliance พร้อมกันนี้ อะโดบียังได้ขยายอีโคซิสเต็มส์ของพาร์ทเนอร์ โดยประกาศความร่วมมือกับ OneTrust เพื่อเพิ่มความสะดวกในการจัดการคำยินยอมของผู้ใช้งาน, นำแผนการเงินเข้ากับเวิร์กโฟลว์ทางการตลาดบนแพลตฟอร์ม Anaplan รวมถึงการบูรณาการระบบอี-คอมเมิร์ซเข้ากับ FedEx, Walmart และ PayPal ซึ่งเทคโนโลยีทั้งหมดนี้พร้อมใช้งานแล้วในวันนี้ อะโดบียังได้ร่วมมือกับ The Weather Company และ IBM เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจใช้ประโยชน์จากข้อมูลสภาพอากาศในการปรับสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลแบบเฉพาะบุคคล

โดยนวัตกรรมใหม่เหล่านี้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้แก่องค์กรธุรกิจในการสร้างและนำเสนอประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลให้แก่ลูกค้าจำนวนมาก พร้อมทั้งเพิ่มความรวดเร็วในการนำเสนอคอนเทนต์ รองรับ customer journey ในทุกขั้นตอนแบบไร้รอยต่อ และใช้ข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์จาก Adobe’s enterprise-grade customer data platform (CDP) และ Adobe Real-Time CDP