การโฆษณาบนออนไลน์มีหลากหลายรูปแบบในปัจจุบัน แต่ก็มีผู้ที่พยายามพัฒนารูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถได้อะไรมากกว่าการชมโฆษณาและผู้ลงโฆษณาก็จะได้กลุ่มคนเป้าหมายมากขึ้น เลยเป็นที่มาของการรวมตัวกันของ 3 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ Click2Biz, Egg Digital และ FutureStream Network (FSN) ในการนำเอาบริการโฆษณาที่ได้รับความนิยมจากเกาหลีมายังประเทศไทยในชื่อ AdPocket
AdPocket เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานบนแอนดรอยด์เพื่อที่จะนำเสนอโฆษณาให้กับผู้ใช้งานได้เห็นบนหน้าจอ Lockscreen ซึ่งมีข้อมูลในการอ้างอิงว่า คนไทยกดเข้าหน้าจอ Lockscreen เฉลี่ย 47 ครั้งต่อวัน รวมทั้งมีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานแอปในประเทศเกาหลี การอยู่ที่ AdPocket ใช้เวลาใกล้เคียงกับ Facebook เลยทีเดียว
การมาของ AdPocket เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก โดยเป็น The First mobile screen lock in Thailand ด้วย หลักการณ์ที่ว่า No More Hating Ads นั่นก็หมายความว่าโฆษณาที่จะได้เห็นนั้นจะตรงกับ Target ด้วยการทำ Target Optimization ไม่หว่านโฆษณาไปยังคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย แต่จะเป็นกลุ่มคนที่เรากำหนดที่จะส่งโฆษณาให้เห็นจริงๆ
AdPocket เป็นตัวกลางระหว่างผู้ลงโฆษณาและผู้ใช้งาน
- ผู้ใช้งาน = ทำทุกอย่างให้ผู้ใช้งานมีความสุข โดยเราเติมสิ่งที่มากกว่าโฆษณา
- ผู้ลงโฆษณา = ตอบความต้องการของคนลงโฆษณา
สิ่งที่มีมากกว่าโฆษณาก็คือการมี Content หรือเนื้อหาอื่นๆ เพื่อเอามาดึงดูดความสนใจและการมีรางวัลพิเศษและ Deal ต่างๆ ก็จะถูกดึงมานำเสนอบนหน้าจอของ AdPocket
AdPocket เข้ามาไทยในแบบ Soft Launch แล้ว แต่หลังจากนี้จะมีการทำการตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าผู้ใช้งานและติดตั้ง 4 ล้านคนภายในปี 2016 โดยใช้แต้มในการกระตุ้น พร้อมการบอกต่อหรือ Viral (ติดตั้งครั้งแรกได้ 300 แต้ม หรือเทียบเป็นเงิน 30 บาท แนะนำเพื่อนให้ลง ได้ 100 แต้ม)
สำหรับคนที่ลงโฆษณา สิ่งที่จะได้เป็นตัวเลขที่ไม่ได้ตั้งแบบเลื่อนลอย
- High Reach เพราะคนเปิดหน้าจอมายังไงก็เห็น
- Low Aversion คนต่อต้านหรือคนที่ไม่ชอบจะน้อย เพราะถ้าเขาต่อต้าน เขาก็คงไม่คิดจะลงแอป
- Engagement สูง 100% เพราะหลังจากที่ดูสามารถจะปัดซ้ายหรือปัดขวากับโฆษณาที่เห็น
รูปแบบของการคิดค่าโฆษณาสำหรับผู้ลงโฆษณาจะเป็น CPM (Cost per Impression), CPC (Cost per Click), CPI (Cost per Install คิดเมื่อลงแอป), CPE (คิดเมื่อลงแอปแล้วเล่น), CPV (unlock แล้วดูวิดีโอจนจบ ถ้าดูไม่จบก็จะไม่คิดเงินกับผู้ลงโฆษณา)
ส่วนการแสดงผลจะเป็นภาพนิ่งและจะมีเป็นวิดีโอแนวตั้ง (ซึ่งเป็นกระแสที่มาแล้วในต่างประเทศ) จะมีในต้นปีหน้า
ในประเทศเกาหลี ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยจำนวนผู้ใช้งาน AdPocket กว่า 20 ล้านคน ซึ่งก็เกือบครึ่งนึงของประชากรในประเทศแล้ว
กลยุทธที่ทำให้ประสบความสำเร็จที่เกาหลี
- มุมของผู้ลงโฆษณา เราสามารถที่จะเลือก Target ของคนที่จะให้เห็นได้
- มุมผู้ใช้ ดูแล้วสนุกด้วยได้เงินไปด้วย และสิทธิพิเศษต่างๆ ที่จะได้รับ
คำถามที่น่าสงสัยว่า ทำไม AdPocket ถึงมีเฉพาะบน Android ไม่มีบน iOS ก็เพราะข้อจำกัดของระบบปฏิบัติการที่ iOS ไม่เปิดให้เข้าไปทำในส่วนของ LockScreen ได้เหมือน Android จึงเป็นสาเหตุให้ไม่มีทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการ แต่ก็ต้องยอมรับถึงสัดส่วนในการใช้งานของ Android ในบ้านเราที่มีสูงกว่า 70% ดังนั้นการมี AdPocket บนที่เดียวก็ยังไม่ค่อยน่าเป็นห่วงมากนัก
สำหรับในไทย มีพันธมิตรหลายๆ แห่งแล้ว เช่น Ookbee, Unilever ที่โฟกัสเรื่อง FMCG โดยเฉพาะ ซึ่งก็น่าจะตอบโจทย์ผู้บริโภคได้
ใครที่ใช้แอนดรอยด์ สามารถเข้าไปดาวน์โหลด AdPocket ได้แล้วที่ Google Play