อีกความเคลื่อนไหวสำคัญของ LinkedIn เครือข่ายสังคมที่ Microsoft ซื้อไปด้วยมูลค่า 2.62 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ล่าสุด LinkedIn ประกาศเริ่มต้นทดสอบระบบติดตาม conversion เพื่อให้นักโฆษณาสามารถนำไปวัดผลได้ว่าชาว LinkedIn ซื้อสินค้าหรือสมัครบริการมากขึ้นหรือน้อยลงระดับใดหลังจากชมโฆษณาบน LinkedIn แล้ว เบื้องต้นการทดสอบนี้ได้รับความสนใจแพร่หลายเพราะมากกว่า 200 แบรนด์ขานรับและเข้าโครงการนี้อย่างไม่รีรอ
ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่า Microsoft ต้องการยกระดับธุรกิจโฆษณาของตัวเองอย่างจริงจัง ด้วยการมอบช่องทางให้นักโฆษณามองเห็นศักยภาพของแคมเปญได้อย่างชัดเจน โดยระบบ conversion tracking ที่ LinkedIn เปิดให้บริการครั้งนี้จะทำให้นักการตลาดได้รับข้อมูลและสถิติที่น่ารู้เพียงแค่แทรกชุดคำสั่งลงในเว็บไซต์ของตัวเอง
ปกติแล้ว conversion จะเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ใดผู้หนึ่งคลิกที่โฆษณาแล้วดำเนินกิจกรรมที่มีคุณค่าต่อธุรกิจนั้น กิจกรรมนั้นอาจจะเป็นการซื้อสินค้าหรือการสมัครบริการ รวมถึงการดาวน์โหลดใดก็ได้ กรณีของ LinkedIn นั้นหวังให้นักการตลาดทราบสถิติการดำเนินกิจกรรมลักษณะนี้หลังจากที่ผู้ใช้ได้เห็นทั้งโฆษณาในรูปข้อความหรือคอนเทนต์ใดที่ได้รับการสนับสนุนบน LinkedIn
จุดนี้ Russell Glass ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ LinkedIn Marketing Solutions ระบุว่าเป้าหมายของการทดสอบครั้งนี้มีมากกว่าการวัดคลิกและสถิติการ engagement แต่จะรวมถึงการวัดตัวแลขที่แสดง conversion ซึ่งเกิดขึ้นบนเว็บไซต์ของแบรนด์เองด้วย แน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้นักการตลาดสามารถวางแผนแคมเปญอื่นได้ดีขึ้นในอนาคต
ระบบติดตาม conversion ลักษณะนี้ถอดแบบมาจากสิ่งที่บริษัทโฆษณาดิจิทัลอย่าง Google, Facebook และอื่นๆได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่า LinkedIn คือรายล่าสุดที่เดินเข้าเทรนด์นี้
ก่อนหน้านี้ เหล่าแบรนด์จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องมือของ Google เท่านั้นในการวัดผลแคมเปญ ข้อจำกัดนี้ทำให้ Facebook และเครือข่ายโฆษณาอื่นหันมาพัฒนาระบบวัดผลของตัวเองอย่างจริงจัง ทั้งหมดทั้งมวลถือว่านี่คืออีกก้าวของ LinkedIn ที่จะหยั่งรากลงในอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลอย่างเข้มแข็ง ด้วยตัวเลขผู้ใช้งานกว่า 450 ล้านคน ซึ่งส่วนหนึ่งคือ 106 ล้านคนที่ใช้งานเป็นประจำต่อเดือน
ที่มา : Adweek
