AIS รุกประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5G หลังชนะการประมูลคว้าคลื่น 5G จำนวนมากที่สุด ครบทั้ง 3 ย่านความถี่ 700 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz เสริมศักยภาพผู้นำเครือข่ายดิจิทัลอันดับ 1 ตัวจริง พร้อมนำ 5G พลิกโฉมการยกระดับประเทศไทยไปอีกขั้น
สร้าง Big Move ก้าวย่างครั้งยิ่งใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงและทรานส์ฟอร์มทุกภาคส่วน ทั้งภาคผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะ 5G ที่ดีที่สุด เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทย
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส เปิดเผยว่า “จากวิสัยทัศน์ของเราที่มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เอไอเอสจึงตั้งใจอย่างยิ่งในการเข้าประมูลคลื่น 5G แบบเต็ม Block ในทุกย่านความถี่
โดยมีครบทั้งย่านความถี่ต่ำ ย่านความถี่กลาง และย่านความถี่สูง ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ ประกอบด้วย คลื่น 700 MHz จำนวน 30 MHz (2×15 MHz), คลื่น 2600 MHz จำนวน 100 MHz และคลื่น 26 GHz จำนวน 1200 MHz รวมคลื่นความถี่ 5G ทั้งหมดอยู่ที่ 1330 MHz และเมื่อรวมกับคลื่นความถี่เดิมที่ AIS มีจำนวนมากที่สุดอยู่แล้ว
ส่งผลให้เอไอเอสมีคลื่นความถี่ในการให้บริการ 4G และ 5G มากที่สุด จำนวนคลื่นรวมทุกย่านความถี่ รวม 1420 MHz (ไม่รวมความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์) ทำให้ความเร็วในการให้บริการเร็วกว่าคู่แข่ง 40% เทียบกับความเร็วของเครือข่ายตนเองในอดีต เร็วขึ้น 30 เท่า เข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้เร็วขึ้น (การรับส่งข้อมูลไป-กลับ) 10 เท่า
ซึ่งหมายความว่า เราจะมีขีดความสามารถที่จะส่งมอบบริการและโซลูชันส์คุณภาพดีที่สุด จากปริมาณคลื่นความถี่ซึ่งเทียบเท่ามาตรฐานของผู้ให้บริการระดับโลก หรือ World’s Best-In-Class ที่ต่างเตรียมปริมาณแบนด์วิธอย่างน้อย 100 MHz ขึ้นไปทั้งสิ้น เพื่อให้สามารถนำมาสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศได้มากยิ่งกว่าใครในอุตสาหกรรม ทั้งนี้หมายรวมถึงคุณภาพการให้บริการในภาพรวมจาก 4G ปัจจุบันของเอไอเอสด้วยเช่นกัน”
มั่นใจเครือข่ายชัดทุกพื้นที่
นายปรัธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านผู้บริโภคนั้น เราก็พร้อมส่งมอบประสบการณ์จากเทคโนโลยี 5G ที่ดีที่สุดเช่นกัน โดยยืนยันได้จากความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำระดับโลกทุกราย ที่จะให้คนไทยได้สัมผัสกับไลฟ์สไตล์การเชื่อมต่อโลกออนไลน์ที่เร็ว แรง เสถียร เหนือระดับยิ่งกว่าใคร
โดยวันนี้ เอไอเอสได้เริ่มเปิดสัญญาณ 5G เป็นรายแรก เพื่อทดลองทดสอบ 5G บนคลื่นความถี่ 2600 MHz บนเครือข่ายจริง ณ สถานที่จริง อาทิ สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์, แยกอโศก รวมถึงในเขตภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่า ลูกค้าจะได้รับบริการ 5G ที่ดีที่สุด ก่อนเปิดให้บริการจริงในเร็วๆนี้
รวมถึงยังเริ่มเชิญลูกค้ากลุ่มแรกให้มาร่วมทดลองทดสอบ เพื่อสร้างประสบกรณ์ 5G ที่ดีที่สุดไปด้วยกัน พร้อมเตรียมโซน 5G Trial ให้ลูกค้าและประชาชนได้เข้ามาลองสัมผัสกับเครือข่ายและอุปกรณ์ดีไวซ์ 5G ที่ AIS Flagship Store เซ็นทรัลเวิลด์ และ สยามพารากอน ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป
“สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือรอให้อีโคซิสเต็มต่างๆ มีความพร้อม เช่น แอพพลิเคชั่น อุปกรณ์สื่อสาร หรืออุปกรณ์เชื่อมต่อ เพราะ 5G ของเราไม่ได้ช้ากว่าประเทศอื่นๆ เหมือนตอน 4G แต่โอเปอร์เรเตอร์ทุกรายทั่วโลก เร่งพัฒนาเพื่อที่จะเดินหน้าเติบโตไปพร้อมกัน แม้ประเทศอื่นๆ จะมีการทดสอบ Used Case กันมาก่อน แต่ทางเราก็เดินหน้าเรื่องนี้กับพาร์ทเนอร์ในไทยเช่นกัน ทำให้การเดินหน้า 5G ของประเทศไทยไม่ได้ช้า แต่เดินไปพร้อมกันกับทุกคน”
นอกจากนี้ การแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยเรื่อง 5G ต้องเข้มข้นอย่างแน่นอนเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกค่ายต่างก็ต้องการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า
แบนด์วิธที่เพิ่มโอกาสการทำงาน
ด้าน นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอส เปิดเผยข้อมูลด้านเทคนิคเครือข่ายเพิ่มเติม ว่า “วันนี้ เครือข่าย AIS 5G คือ เครือข่าย 5G ที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ เพราะนอกจากจะเป็นเพียงรายเดียวที่มีจำนวนคลื่นมากที่สุดในแต่ละย่านแล้ว ยังเป็นเพียงรายเดียวในอุตสาหกรรมที่มีปริมาณแบนด์วิธภาพรวมในระดับ World’s Best-In-Class ตามมาตรฐานของผู้ให้บริการระดับโลกที่ต่างมีแบนด์วิธในปริมาณอย่างน้อย 100 MHz ขึ้นไป
อันจะส่งผลให้เครือข่ายของเรามีขีดความสามารถในการสร้างสรรค์ ออกแบบ Solutions , ปรับเปลี่ยน,Tailor Made เพื่อตอบโจทย์แต่ละอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในภาพรวมเครือข่าย AIS 5G จะมีความเร็ว Speed ที่สูงกว่าถึง 24 เท่าและมีขีดความสามารถในการรองรับการใช้งาน Capacity ที่มากกว่าถึง 30 เท่า และมี Latency ต่ำกว่าเดิมถึง 10 เท่า”
ด้วยมาตรฐานเทคโนโลยี 5G โดย 3GPP [1] ระบุว่า คลื่น 700 MHz จะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด ที่จำนวนเต็ม 30 MHz (2×15 MHz) จึงเป็นที่มาของความตั้งใจในการเข้าประมูลย่าน 700 MHz เพิ่มอีก 10 MHz (2×5 MHz) จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 20 MHz (2×10 MHz) รวมเป็น 30 MHz (2×15 MHz)
ในขณะที่ คลื่น 2600 MHz ต้องมีจำนวน 100 MHz จึงจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเช่นกัน ส่วนคลื่น 26 GHz ต้องมีจำนวน 400 MHz ต่อ 1 Block จึงจะสามารถให้บริการ 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการรองรับดิจิทัลโซลูชันส์ให้กับภาคอุตสาหกรรมในอนาคตนั่นเอง
นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีของ AIS เราได้เตรียมพร้อมและเดินหน้า 5G ไปเยอะแล้ว ดังนั้น สิ่งที่เหลือคือรอพาร์ทเนอร์และอีโคซิสเต็มต่างๆ ที่จะทำให้ 5G เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนได้ตลอดกาล