สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยรายงานผลประกอบการ ไตรมาส 1/2563 รายได้รวม 42,845 ล้านบาท ลดลง 1% และมีกำไรสุทธิ 7,004 ล้านบาท ลดลง 7.5% ได้รับผลกระทบจากเล็กน้อย พร้อมเดินหน้าลงทุน 5G เพื่อร่วมฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤตโควิด-19
สำหรับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีรายได้ลดลง -1.1% เทียบกับปีก่อน ขณะที่ ธุรกิจเน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ยังคงเติบโตได้ดี รายได้เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อน ทั้งนี้ จากมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตบ้านเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากช่วงครึ่งหลังของเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 จากปีก่อน
ถึงแม้จะได้รับความต้องการที่สูงขึ้นในบริการโทรคมนาคมของเอไอเอส แต่รายได้จากการให้บริการซึ่งมีฐานลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้บริการทั้งลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กร ย่อมได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากโควิด-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง
หลังจากที่เอไอเอสเป็นผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ในเดือนกุมภาพันธ์สำหรับพัฒนาบริการ 5G บนคลื่นความถี่ใหม่ย่าน 2600MHz ได้เริ่มต้นในปีนี้ เพื่อให้บริการทั้งบนเทคโนโลยี 4G และ 5G โดยมีงบการลงทุน 35,000-40,0000 ล้านบาท และเดินหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่งให้กับประเทศไทย หลังจากขยายเครือข่าย 5G ครอบคลุม 77 จังหวัดแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เอไอเอสยังช่วยเหลืองานด้านสาธารณสุขภายใต้ภารกิจ “AIS 5G สู้ภัย COVID-19” ด้วยงบลงทุนกว่า 110 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปติดตั้งเครือข่าย 5G ในโรงพยาบาล มอบหุ่นยนต์บริการทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาล 22 แห่ง ภายในเดือนพฤษภาคม 2563 นี้ รวมถึง สนับสนุนระบบสื่อสาร รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลและองค์กรภาครัฐอีกมากมาย เพื่อให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตในเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็วและพร้อมรับมือวิกฤตในระยะยาว