ผ่านมาครึ่งปีแล้ว แน่นอนว่านอกจากเรื่องของการเมืองและเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศที่กำลังร้อนแรง ก็คงมีเรื่องของวงการธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงและร้อนแรงตลอดครึ่งปี ทางทีมงาน Thumbsup ได้รับโอกาสในการเข้าร่วมงานใหญ่อย่าง Thailand Game Expo by AIS eSports และ Thailand Mobile Expo 2019 จัดขึ้นในวันที่ 30 พ.ค.-2 มิ.ย.2562 ที่ไบเทคบางนา
การที่เราพูดถึงอีเว้นท์นี้นั้น เป็นเพราะทั้งสองผู้จัดงานได้นำเสนอมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระแสโลก และการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่รายใหญ่อาจจะเปลี่ยนมือและช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะมีหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปและคาดว่าจะดุเด็ดไม่แพ้ครึ่งปีแรกแน่นอน
AIS เร่งสร้างโอกาสใหม่ เพิ่มความยั่งยืนของแบรนด์
แม้ว่า AIS ยังครองส่วนแบ่งตลาดโทรคมนาคมเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย แต่ก็ต้องยอมรับว่าคู่แข่งก็ตามมาติดๆ เช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่จะแข่งขันได้นั้น ก็คือต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ แม้ว่าตั้งแต่ 3 ปีก่อนทาง CEO อย่าง “คุณสมชัย” จะบอกว่าคอนเทนต์กำลังมาแรง และเดินหน้าร่วมมือกับทั้งค่ายหนังและเพลงมากมาย จนมาถึงวันนี้ AIS PLAY ก็กลายเป็นหนึ่งในแอพพลิเคชั่นยอดนิยมของคนไทยไปแล้ว เพราะใช้งานได้ทั้งบนมือถือและโทรทัศน์ และครั้งนี้ก็จะเดินหน้าในคอนเทนต์เกมส์ เพื่อโอกาสใหม่สำหรับอนาคต
ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะ ผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส เล่าว่า ไม่มีใครรู้หรอกว่าต้องใช้เวลาอีกกี่ปี ถึงจะปรับภาพความคิดจาก “เด็กเล่นเกมส์” สู่อาชีพ “เกมเมอร์” ที่จะสร้างรายได้ให้แก่คนรุ่นใหม่และอุตสาหกรรมคอนเทนต์ได้อย่างมหาศาล
หากมองจากเม็ดเงินในตลาดอีสปอร์ตทั่วโลก ที่มีมูลค่าสูงถึง 1,379,000 ล้านบาท คนรับชมคอนเทนต์ทั่วโลกกว่า 380 ล้านคน ส่วนในไทยมีมูลค่าเม็ดเงินสะพัดกว่า 23,000 ล้านบาท (รวมทุกอย่างยกเว้นคอนเทนต์ เน้นไปที่เกม อุปกรณ์เสริม คอมพิวเตอร์) คาดว่าตลาดโต 2 ดิจิทเป็นอย่างน้อยในส้ินปีนี้ และมีเกมเมอร์กว่า 27.5 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 67 ล้านคน
แสดงว่าคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่ช่วยพลิกฟื้นโอกาสทางรายได้ใหม่ๆ ในการซื้อคอนเทนต์ อุปกรณ์อย่าง PC, Notebook, Mobile ไปจนถึง Gadget ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมา สินค้าเหล่านี้ซบเซาและตกลงถึงจุดต่ำสุดมาแล้ว และกำลังจะทะยานกลับขึ้นมา หลังจากที่หลายธุรกิจก็เห็นสัญญาณและโอกาส รวมทั้งพยายามสื่อสารทางการตลาดอย่างเต็มที่ ให้ลูกค้าทราบว่าพวกเขามีสินค้าเกี่ยวกับเกมเมอร์
ดังนั้น โอกาสของ AIS ในการไปเข้าร่วมกับกลุ่มเกมเมอร์ แน่นอนว่าเป็นเรื่องของ Broadbrand ซึ่ง AIS ได้ออกแพคเกจมารองรับการใช้งานที่ต่อเนื่อง ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นการเข้าไปมีส่วนร่วมมากกว่าจะเข้าไปเป็นผู้ลงทุนหลัก เช่น ไม่เป็นผู้ผลิตคอนเทนต์เองแต่จะร่วมมือกับพาร์ทเนอร์มากกว่า เพราะเราต้องการเป็นแพลตฟอร์มตรงกลางให้ธุรกิจต่างๆ เข้ามาปลั๊กอินและเติบโตไปด้วยกัน
Package 300/300 ของเราผลตอบรับดีมากในสายไฟเบอร์ แสดงว่าความต้องการด้านการสื่อสารไร้สายของคนยุคนี้ คือต้องแรงและเร็ว อีกทั้งคนรุ่นใหม่กล้าลงทุน กล้าจ่าย หากผลตอบรับของสินค้าและบริการนั้นดีจริง ส่วนการแข่งขันนั้น มั่นใจว่าใครที่มองเห็นโอกาสต่างก็ลงทุนเรื่องนี้ทั้งนั้น
ภาระสำคัญคือลบภาพเด็กติดเกมส์
ด้วยความที่ทุกคนยึดติดกับภาพการเล่นเกมคือภัยร้ายสำหรับเด็ก อย่างเช่น WHO ที่ออกมาประกาศว่าภาวะเด็กติดเกมคือเป็นโรคที่ต้องรักษานั้น คุณปรัธนา มองว่า มันไม่ Make Sense เพราะไม่ว่าใครที่ยึดติดกับอะไรมากเกินไปต่างก็เป็นความเสี่ยงทั้งสิ้น
“ไม่ว่าจะปัญหาเด็กติดเกมส์หรือภาวะหมดไฟ คือโรคที่ต้องรักษานั้น ส่วนตัวผมมองว่า หากเราแบ่งเวลาอย่างเหมาะสม เข้าศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง อาจจะเข้าร่วมกับทางสมาคมอีสปอร์ตอย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ก็น่าจะเป็นการยืนยันได้ว่าวงการอีสปอร์ตไม่ได้มีแต่แง่ลบเสมอไป”
ตลาดอีสปอร์ตในสายตาของคุณปรัธนา ก็จะคล้ายกับดิจิทัลอีโคโนมี หากคุณคาดหวังว่าอีคอมเมิร์ซจะเป็นแหล่งสร้างเศรษฐกิจรายได้ใหม่ อีสปอร์ตก็สามารถสร้างรายได้ในกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้เช่นกัน โดยเมื่อก่อนคนจะมองว่า Publisher เท่านั้น ที่จะได้รับเม็ดเงินจากตลาดนี้ แต่ตอนนี้ได้กระจายมาสู่ Commercial และ Sport แล้ว
นอกจากนี้ สถาบันการศึกษาเองก็มีการเพิ่มหลักสูตรด้านอีสปอร์ตมากขึ้น เพื่อเป็นโอกาสสร้างงาน สร้างอาชีพสำหรับอนาคต หากเราสามารถวางรากฐาน ให้มั่นคงได้ก็จะสร้างคนไทยสู่ตลาดโลกได้
ตลาดมือถืออาจไม่ใช่รายได้หลักของ Mobile Expo
ในช่วงที่กระแสข่าวมือถือร้อนแรงทุกวัน อีเว้นท์ที่ทุกคนจับตามองคนหนีไม่พ้นงาน Thailand Mobile Expo ของ บริษัท เอ็ม วิชั่น ที่เป็นผู้จัดมาอย่างยาวนานและสร้างรายได้การเติบโตที่ดีต่อเนื่อง และวันนี้ก็ได้มองหาโอกาสใหม่ๆ บ้างแล้ว
คุณโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) เล่าว่า ทุกวันนี้ยอดคนมาเดินงานยังคงมีตัวเลขที่ดีอยู่ ซึ่งเราคาดว่าจะมีคนมาเดิน 7 แสนคน และเงินสะพัด 2,500 ล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่านมา เพราะความต้องการสินค้าในกลุ่ม Mobile, Gadget, Accessories ยังคงมีต่อเนื่อง
แต่การขยายธุรกิจไปในกลุ่มใหม่ๆ อย่าง รถบ้าน งานไอดอลเอ็กซ์โป ที่ร่วมมือกับบริษัท ไอดอลมาสเตอร์ และงาน Thailand Game Expo ที่ร่วมกับ AIS ต่างก็เป็นตลาดที่มีความเกี่ยวข้องกันตรงมีการขายเรื่องอุปกรณ์สื่อสาร อินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ มีกำลังซื้อทั้งสิ้น
“เราคาดว่าสินค้าที่น่าจะขายดีมีการใช้จ่ายสะพัดคือกลุ่มเกมส์ 30% ที่เหลือจะกระจายเป็น Gadget, Mobile Accessories เพราะตอนนี้ทุกคนพร้อมจ่ายมาก และมองหากิจกรรมที่ตอบโจทย์ ส่วนตลาดมือถือ อย่างที่รู้กันว่ากำลังมีภาวะตึงเครียด และแบรนด์จีนก็เป็นสัดส่วนหลักในงานครั้งนี้ เชื่อว่าจะมีการทำโปรโมชั่นที่เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาในเร็ววันนี้”
เราลงทุนในงาน Thailand eSport Expo 50% ในช่วง 3 ปีนี้ ส่วนดีแทคก็เน้นเอารถ EV เข้ามาจัดแสดงและขายในงาน เพราะมองว่าภาพของดีแทคจะหวังแต่โอกาสของมือถือไม่ได้ ต้องหาโอกาสใหม่ๆ ด้วย
ความพยายามของแบรนด์จีนหลังจากนี้
ในช่วงที่เกิดกระแสข่าวข้อพิพาทระหว่าง Huawei และโดนัลด์ ทรัมป์ แน่นอนว่าในมุมผู้บริโภคย่อมเกิดความสงสัยและชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์นี้ แต่กลับเป็นเรื่องดีของแบรนด์จีนค่ายอื่นๆ อย่าง OPPO, VIVO, Realme ที่จะมีโอกาสสื่อสารการตลาดกับลูกค้าได้
“หากเดินในงานจะเห็นว่า โซนงานมือถือยังคึกคักอยู่และคนที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ก็ยังคาดหวังโปรโมชั่นเด็ดๆ ภายในงาน วันนี้แค่วันแรกก็เห็นว่าเริ่มแจกสินค้าและส่วนลดกันมากแล้ว ยิ่งช่วงวันหยุด ผมว่าต้องมีโปรลับที่สร้างกระแสได้แน่นอน”
แม้ว่า ทางแบรนด์จีน จะยังไม่ได้ออกข่าวที่สร้างความมั่นใจและเข้าใจแก่ผู้บริโภค แต่มั่นใจว่าทีมการตลาดของทุกแบรนด์โดยเฉพาะ Huawei จะต้องกำลังมองหาโอกาสอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ทิศทางรายได้ของเอ็ม วิชั่น จะมาจากธุรกิจรถบ้านเกินกว่า 50% เรียกว่าสร้างรายได้มากกว่ากลุ่มมือถือเสียอีก ซึ่งไม่เคยมีใครคาดคิดว่าธุรกิจนี้โอกาสเติบโตจะสูงมาก เพราะคนยุคใหม่ต้องการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหรือร่วมอีเว้นท์เพื่อสุขภาพมากขึ้น เช่น นักวิ่งที่ต้องไปหาที่พักตามจังหวัดต่างๆ หรืองานคอนเสิร์ตกลางแจ้งที่อาจไม่สะดวกในการเดินทางไปกลับ การขับรถนี้ไปจอดใกล้กับจุดจัดงาน ทำให้สะดวกในการร่วมกิจกรรมมากขึ้น คาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากกลุ่มนี้แตะ 100 ล้านบาทในเร็วๆนี้
ไขข้อสงสัย Huawei
ทางผู้เขียน ขอเพิ่มเนื้อหาส่วนของ Huawei สำหรับคนที่กำลังมองหาสินค้าแบรนด์จีน เกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างสหรัฐอเมริกากับโดนัลด์ ทรัมป์ สักหน่อย แม้หลายคนจะกังวลว่า จะซื้อรุ่น P20, P30 ดีหรือไม่นั้น ทางผู้เขียนได้สอบถามกับคนในวงการมือถือและย้ำให้มั่นใจว่า รุ่นที่ออกมาก่อนหน้าท่ีจะมีข้อพิพาทยังสามารถใช้งาน อัพเดทเครื่องและซอฟต์แวร์ได้ตามปกติ เพราะผ่าน License ทั้งหมดแล้ว
แต่รุ่นที่จะออกมาหลังจากนี้ หรือรุ่นใหม่ที่ออกมาหลังเกิดปัญหาข้อพิพาท ยังอยู่ในขั้นตอนเจรจาว่าจะผ่านปัญหา License ได้หรือไม่ หากคุณกำลังตัดสินใจจะซื้อสินค้าแบรนด์จีน ไม่ว่าจะเป็น Huawei, OPPO, VIVO, Realme ก็มั่นใจว่ารุ่นที่ออกมาวางขายในตลาดทั้งหมดนั้น ใช้งานได้เช่นเดิมและไม่ต้องกังวลปัญหาใดๆ ค่ะ
ดูเหมือนว่าธุรกิจแบบเดิมจะไม่ยั่งยืน หากไม่ปรับตัวหรือมองหาโอกาสใหม่ๆ ซึ่งไม่ว่าธุรกิจจะอยู่ที่จุดใด แต่ถ้าไม่ลงมือทำก็เสียเวลาในการสร้างรายได้ไปอย่างน่าเสียดาย แม้สงคราม Tech War จะกระทบการใช้จ่ายของคนยุคนี้แต่มั่นใจได้ว่ายังไม่กระทบมาถึงไทยแน่นอน