Site icon Thumbsup

AIS-Sansiri-Microsoft จับมือเดินหน้า MR หวังกระตุ้นเทคโนโลยีใหม่เข้าสู่ชีวิตคนได้จริง

เรื่องของการใช้เทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์การรับชมห้องสเมือนจริง จากที่หลายคนมองว่าต้องมีคนกล้าลงทุน เพื่อเปิดประเดิมประสบการณ์ผู้ใช้งานสักครั้ง หลังจากไมโครซอฟต์มีเทคโนโลยีเหล่านี้รองรับมานาน แต่วันนี้ก็ได้เห็นจริงเสียที กับความร่วมมือของ 3 อุตสาหกรรม คือ โทรคมนาคมยักษ์ใหญ่อย่าง AIS บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Microsoft และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  Sansiri

ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บมจ.แสนสิริ กล่าวว่า เรื่องของ Mixed Reality หรือ MR ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับเทคโนโลยี แต่ใหม่สำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์ เพราะยังไม่มีใครกล้าลงทุนเทคโนโลยีนี้จริง ซึ่ง แสนสิริ ก็แย้มแล้วว่าจะนำไปให้ลูกค้าได้ใช้งานจริง ในคอนโดที่มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อเปิดประสบการณ์ทางด้านภาพ และต่อไปจะต้องมีครบทั้งรูป รส กลิ่น และเสียงให้เหมือนอยู่ในบรรยากาศจริง คาดว่าจะได้เห็นจริงช่วงกลางปีนี้ โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงก่อนเห็นเต็มรูปแบบช่วงปลายปี

ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บมจ.แสนสิริ

นอกจากนี้ การลงทุนด้านเทคโนโลยีของแสนสิริ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ปีที่ผ่านมาก็ใช้ไปไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งแสนสิริมีพาร์ทเนอร์หลายราย ไม่ว่าจะเป็น AWS ที่ทำด้านคลาวด์ Uber, ofo ที่ช่วยเรื่องการเดินทางให้ลูกบ้าน และอีกหลายราย โดยเราจะเลือกดูสิ่งที่ลูกบ้านต้องการใช้งานเป็นสำคัญ

ทางด้านรูปแบบการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์จะมีทีมคอยแจ้งความต้องการและตรวจสอบคุณภาพ ส่วนการครีเอทเทคโนโลยีจะแบ่งให้พาร์ทเนอร์เป็นคนช่วยดูแล เพราะการทำงานเป็นทีมจะช่วยพัฒนาโปรดักส์ใหม่ๆ ได้เร็วกว่า การทำเองทั้งหมด ซึ่งการทำงานร่วมกันครั้งนี้ ใช้เวลาเพียง 2 เดือน ก็ช่วยให้ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพห้องตัวอย่างได้แล้ว แต่ครั้งต่อไปจะทำได้ตอบโจทย์เรื่องของกลิ่นและเสียง ได้ดีกว่านี้

ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย)

ทางด้านของ ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า หลายครั้งพูดถึงเทคโนโลยีแต่เราไม่สามารถใช้ได้เต็มที่ การที่มีเจ้าใหญ่อย่าง ais และ sansiri มาเป็นผู้นำในการใช้ดิจิทัลมาทรานฟอร์มให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พูดได้ว่าน่าตื่นเต้นมาก

เพราะไมโครซอฟต์เองก็ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มของเทคโนโลยีหลายอย่าง ที่มีการใช้งานกันหลักๆ คือโฮโลกราฟิกที่แสดงให้เห็นสภาวะเสมือน และครั้งนี้ถือว่าเป็นบริษัทแรกๆ ที่เอาเทคโนโลยีนี้มาใช้ให้เกิดได้จริง

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

ในฐานะของการเป็นผู้พัฒนาระบบ MR ในกับทางแสนสิริ ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เทคโนโลยีที่เรานำมาทำให้กับทาง แสนสิรินั้น สามารถนำไปใช้งานได้กับหลายอุตสาหกรรม เพื่อช่วยเรื่องของความสะดวกสบาย เช่น ด้านการศึกษา งานออกแบบ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น เพราะการทำภาพเสมือนจริงช่วยเปิดประสบการณ์ให้ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ

ปรัธนา ยอมรับว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ เอไอเอส มีการพัฒนาเทคโนโลยีหลายอย่าง ด้วยความว่าทีมพัฒนาของเรามีหลักพันคน ซึ่ง 80-90% จะดูเรื่องการพัฒนาอีโคซิสเต็มส์เป็นหลัก ส่วนที่เหลือจะมองหาโอกาสสำหรับอนาคต เพราะเรามองว่าเรื่องของเทคโนโลยี หลายอย่างยังใหม่ ต้องพร้อมปรับตัวและเรียนรู้

“การทำงานของบริษัทใหญ่อย่างเราจะต่างจากสตาร์ทอัพ ถ้ามองว่า Make Sense ก็ลองเลย ถ้าไม่สำเร็จก็ปล่อยและพัฒนาสิ่งใหม่ขึ้นมา จะไม่ยึดติดกับสิ่งที่เฟล”

การร่วมมือของทั้ง 3 อุตสาหกรรมในครั้งนี้ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการเปิดประสบการณ์และมุมมองใหม่ๆ ให้คนไทยได้เห็นว่า เทคโนโลยีสามารถต่อยอดและสร้างหลายอย่างได้ และธุรกิจยักษ์ใหญ่เอง ก็พร้อมนำไปให้บริการแก่ลูกค้าของตนเองมากขึ้นแล้ว