การเข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสดของคนไทยใกล้ขึ้นไปทุกที เมื่อคนไทยกว่า 68 ล้านคน มีผู้ใช้งานบัญชีพร้อมเพย์แล้ว 40 ล้านคน แสดงให้เห็นว่าคนไทยเข้าสู่ยุค Cashless Society อย่างรวดเร็ว เพราะพร้อมเพย์เปิดให้บริการมาเพียงปีเดียวเท่านั้น ยิ่งอัตราคนใช้งานซิมและสมาร์ทโฟนถึง 160% ของประชากรทั้งหมด ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกันเร็วขึ้นและมีโอกาสผลักดันให้ไทยเข้าสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี
นายอาเธอร์ แลง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสิงเทล อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า การเชื่อมต่อแพลตฟอร์มโมบายเพย์เมนท์ระหว่าง AIS และ Singtel ในครั้งนี้ จะช่วยให้การใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินอัจฉริยะ เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกขึ้น ซึ่งความพยายามในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องกังวลถึงการพกเงินสดหรือบัตรเครดิตให้ยุ่งยาก
เมื่อลูกค้าชาวสิงคโปร์ที่เดินทางมาไทยสามารถใช้กระเป๋าเงินอิเล็คทรอนิกส์ Singtel Dash และลูกค้าชาวไทยที่ใช้ Rabbit LINE Pay (ผ่านแอปฯ AIS GLOBAL Pay) ชำระเงินผ่าน QR Code ที่มีสัญลักษณ์ VIA หรือ Thai QR Code ด้วยสกุลเงินของประเทศตัวเอง โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ช่วยให้ไม่ต้องกังวลกับอัตราแลกเปลี่ยน หรือถือเงินสดในระหว่างเดินทาง
VIA ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างไร
VIA จะเป็นสัญลักษณ์หรือป้ายที่ติดหน้าร้าน (เหมือนป้ายธงฟ้าหรือจุดโฆษณาทั่วไป ที่ติดหน้าร้านค้าหรือแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ) ช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการชำระเงินให้กับผู้บริโภคนับล้านคน โดยรวมถึงฐานผู้ใช้งานของ Singtel กว่า 700 ล้านคน เรามองเห็นโอกาสอันสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพราะสิ่งนี้จะเป็นแรงผลักดันใหญ่ที่ช่วยให้ภูมิภาคอาเซียนเข้าสู่สังคมไร้เงินสด และสานต่อวิสัยทัศน์ในการทำให้เกิดตลาดดิจิทัลที่ใช้งานร่วมกัน
ในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังตลาดของกลุ่มสิงเทลในภูมิภาคเอเชียกว่า 80 ล้านคน โดยในจำนวนนี้มากกว่า 1.5 ล้านคนต่อปีที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในสิงคโปร์และไทย และตัวเลขนี้ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จุดเด่นของ VIA คือบริการที่โปร่งใส สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าแบบไร้รอยต่อ ทั้งนี้ เอไอเอสและสิงเทล ต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อมาตรการด้านความปลอดภัย cyber security โดยนักท่องเที่ยวสามารถใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อชำระเงินด้วยสกุลเงินของประเทศตนเอง
เมื่อมาท่องเที่ยวในสิงคโปร์และไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีการแข่งขันสูงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา บริการนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลกับการพกพาเงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมทางการเงินข้ามประเทศอีกด้วย
ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กที่ไม่สามารถรับบัตรเครดิต ก็จะสามารถขยายการรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวผ่านการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์นี้ได้อย่างสะดวกอีกด้วย ส่วนแอปพลิเคชันชำระเงินผ่านมือถือรายอื่นๆ สามารถเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับ VIA เพื่อที่จะได้เข้าถึงกลุ่มผู้ขายและฐานลูกค้าของกลุ่มสิงเทลทั่วทั้งภูมิภาค
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า AIS วางแผนเรื่องนี้มา 10 ปี เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยก่อนหน้านี้มี mPAY และปีนี้ร่วมลงทุนกับแรบบิทไลน์เพย์ เพื่อจับกลุ่มลูกค้า B2c เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้จ่ายผ่านร้านค้าต่างๆ ได้สะดวกขึ้นและการทำ Cross Border ในครั้งนี้ จะช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้จ่ายผ่านโมบายเพย์เม้นท์ได้ทั่วโลก
ทางด้านของลูกค้าที่ใช้งานแอพโมบายเพย์เม้นท์ทั้งสองตัวนั้น อย่าง Singtel Dash มีผู้ใช้งานกว่า 5 แสนราย จากจำนวนประชากรทั้งหมด 5 ล้านคน ส่วนคนไทยมีผู้ใช้งาน Rabbit Line Pay กว่า 5 ล้านคนในไทยเช่นกัน แต่ฐานลูกค้าของ AIS มี 40 ล้านเลขหมาย ส่วน LINE มีจำนวนบัญชีผู้ดาวน์โหลดใช้งาน 42 ล้านบัญชี เชื่อว่าไม่ว่าคุณจะใช้งานเครือข่ายใดก็สามารถใช้จ่ายผ่าน Rabbit Line Pay ได้เช่นกัน
ยิ่งในอนาคตร้านค้ารายย่อยของไทยที่มีกว่า 1.6 ล้านร้านค้าก็สามารถให้บริการลูกค้าผ่านเครื่องรับชำระ Rabbit Line Pay หรือมีสัญลักษณ์ VIA ก็สามารถจ่ายได้เช่นกัน จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้กับทั้งลูกค้าและร้านค้าได้มากขึ้นเช่นเดียวกับในสิงคโปร์ที่มีร้านค้ากว่า 2 หมื่นร้านค้าที่ใช้งาน Rabbit Line Pay ได้แล้ว
แม้ว่าตอนนี้จะใช้งานระบบได้แค่ในไทยและสิงคโปร์ แต่ในปลายปีนี้จะใช้งานได้ในอินโดนีเซีย ส่วนฟิลิปปินส์และอินเดียก็น่าจะตามมาในเร็วๆ นี้ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนจะคิดตามอัตราค่าเฉลี่ยของระบบธนาคารกลางซึ่งจะถูกกว่าอัตราของธนาคารหรือรูดผ่านบัตรเครดิต
ชาวสิงคโปร์จ่ายด้วย Singtel Dash เมื่อมาเมืองไทย ส่วนชาวไทยจ่ายด้วย Rabbit LINE Pay ผ่าน แอปฯ AIS GLOBAL Pay เมื่อไปสิงคโปร์
ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 500,000 ราย Singtel Dash ถือเป็นบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ครบและจบในที่เดียว เพราะช่วยให้ลูกค้าสามารถแปลงค่าเงิน ซื้อของ และส่งเงินไปทั้งในและนอกประเทศ บริการนี้พร้อมให้ทุกคนสามารถใช้งานได้แล้วในสิงคโปร์ โดยสามารถใช้งานผ่านผู้ให้บริการโทรคมนาคม ธนาคาร หรือโทรศัพท์รุ่นใดก็ได้ ส่วนในไทย Singtel Dash สำหรับผู้บริโภค จะสามารถใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VIA และ Thai QR Code โดยสามารถสแกนคิวอาร์โค้ด หรือจะให้ร้านค้าสแกนคิวอาร์โค้ดของลูกค้าผ่านแอปพลิเคชันก็ได้
โดยลูกค้าชาวสิงคโปร์ สามารถใช้งาน Singtel Dash เพื่อซื้ออาหาร–เครื่องดื่ม และช็อปสินค้าต่างๆ ได้ที่ร้านค้าในไทยกว่า 1.6 ล้านจุดทั่วประเทศ ตั้งแต่ศูนย์การค้าชั้นนำ, ร้านแบรนด์เนม, แหล่งช็อปปิ้งที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ, ร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็ก ตามแหล่งชุมชนต่างๆ ตลอดจนร้าน Street Food ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ความอร่อยของไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ส่วนประเทศไทยนั้น ลูกค้าที่ใช้แอปแชท LINE จำนวนกว่า 42 ล้านราย พร้อมที่จะใช้บริการ VIA ได้ โดยในจำนวนนี้ มีผู้ใช้ Rabbit LINE Pay จำนวนกว่า 5 ล้านราย ที่หลังจากมีการแสดงตัวตนผู้ใช้งานตามแนวทางปฏิบัติของภาครัฐแล้ว ก็สามารถดาวน์โหลดแอปฯ AIS Global PAY เพื่อใช้บริการ VIA ได้ทันที เมื่อเดินทางไปที่ประเทศสิงคโปร์ โดยสามารถชำระค่าแท็กซี่ ซื้อสินค้าและบริการ หรือค่าอาหารในสิงคโปร์กว่า 20,000 จุดทั่วประเทศ โดยปัจจุบัน Rabbit LINE Pay ถือเป็นกระเป๋าเงินบนมือถือที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ทั้งในกลุ่มคนรุ่นใหม่และคนทุกเพศทุกวัย เพราะถูกฝังอยู่ใน LINE แอปฯ แชทยอดนิยมอันดับหนึ่งของไทย
เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวบริการระหว่างสิงคโปร์และไทยในครั้งนี้ Singtel Dash พร้อมมอบสิทธิพิเศษด้วยส่วนลด 10% สำหรับทุกการชำระเงินผ่านทาง Singtel Dash ในประเทศไทย และมอบอินเทอร์เน็ตโรมมิ่งจำนวน 1 GB มูลค่า 5 ดอลลาร์สิงคโปร์ในไทยสำหรับลูกค้าของสิงเทลโดยเฉพาะ
ส่วนโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ AIS GLOBAL Pay เมื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่สิงคโปร์ โดยจ่ายด้วย Rabbit LINE Pay (ขั้นต่ำ 100 บาท) จะได้รับเงินคืนทันทีจำนวน 100 บาท ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2561 โดยลูกค้าของ Rabbit LINE Pay จะได้รับสิทธิ์ 1 คน/ 1 สิทธิ์ตลอดโครงการ