โดยตัวอย่างที่ดีอาจเป็นค่าย Alibaba ที่มีการส่งแอปพลิเคชัน Taobao เวอร์ชันเป็นมิตรกับผู้สูงอายุ (Elderly Friendly) เพื่อให้คุณตาคุณยายสามารถใช้แอปพลิเคชัน Taobao ในการจับจ่ายซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตเหอหม่า (Hema Supermarket) ได้ออกมา
โดยความแตกต่างของแอปพลิเคชัน Taobao เวอร์ชัน Elderly Friendly คือปุ่มต่าง ๆ จะใหญ่กว่าปกติ เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้งานได้อย่างสะดวก ส่วนในการใช้งานจริงที่ซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นก็จะมีพนักงานคอยให้ความช่วยเหลือ เช่น สแกนบาร์โค้ดให้ (จากนั้นระบบจะตัดเงินให้โดยอัตโนมัติ)
ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในสังคม Cashless Society ที่จีนเป็นผู้นำอยู่นั้น ยังมีคนอีกสองกลุ่มที่ยังไม่ได้เข้ามาในระบบดังกล่าวอย่างจริงจัง นั่นคือเด็กนักเรียนและผู้สูงวัย ที่ยังคงใช้เงินสดในชีวิตประจำวัน
แน่นอนว่า Alibaba เองก็ได้ประโยชน์จากการปรับกลยุทธ์ครั้งนี้เพราะการดึงเงินของผู้สูงอายุออกจากกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ (แถมบางทีอาจเป็นเงินของลูกหลาน) ได้ย่อมหมายถึงรายได้ที่เติบโตขึ้น มากไปกว่านั้น Alibaba เข้าใจดีว่า ผู้สูงอายุนั้นไม่ถนัดนักที่จะช้อปออนไลน์ แต่ถ้าเป็นการเดินช้อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ต อาจเป็นสิ่งที่คุณตาคุณยายให้ความสนใจมากกว่า
สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก Alibaba ในครั้งนี้จึงอาจเป็นเรื่องของการปรับตัว โดยเฉพาะธุรกิจที่เริ่มเห็นว่า อัตราการเติบโตของบริษัทลดลง บางทีการปรับโปรดักซ์เดิมสักเล็กน้อย เพื่อให้เข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ได้ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดี