อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (Alibaba group) เผยผลประกอบการไตรมาส 4 ประจำปี 2563 รายได้รวมอยู่ที่ 1,027,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% และมีกำไรจากการดำเนินงาน 227,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
“เป็นอีกหนึ่งปีที่มหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ประสบความสำเร็จ ด้วยมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและไม่ลืมที่จะสนับสนุนให้ร้านค้าสามารถฟื้นตัวได้จากภาวะการระบาดของโควิด-19” แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอ อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว
โดยเฉพาะธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งเริ่มได้ส่วนแบ่งทางการตลาดและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นศักยภาพของธุรกิจคลาวด์ในจีนที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานและการลงทุนด้านเทคโนโลยีของบริษัทมาตลอดระยะเวลาหลายปี
“เราพึงพอใจที่ธุรกิจอาลีบาบาคลาวด์มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITA) เป็นบวกในไตรมาสนี้และไช่เหนียวเน็ตเวิร์กมีกระแสเงินสดเป็นบวกเช่นกัน ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่ตอกย้ำว่ากลยุทธ์ระยะยาวของอาลีบาบาทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดกำไร” แม็กกี้ วู ประธานกรรมการฝ่ายการเงิน อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว
นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้อาลีบาบามีผลประกอบการที่ดี โดยจำนวนผู้บริโภคประจำต่อปีบนตลาดค้าปลีกของจีนสูงถึง 779 ล้านคน เพิ่มขึ้น 22 ล้านคน จากไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563