Facebook เปิดตัวการใช้งาน Hashtag กันแล้วโดยทุกคนน่าจะได้ใช้งานกันบ้างแล้วนะครับ บ้างก็เริ่มลองใส่ไปในข้อความ บ้างก็อัดกันเป็น 10 hashtags ราวกับที่เคยเห็นใน Instagram อาจจะเป็นเพราะความสนุกหรือความเคยชินในการใช้งาน เพื่อที่จะทำความรู้จักกันมากขึ้น บทความนี้เลยจะขอแนะนำสิ่งที่เกี่ยวกับ Hashtag ที่คนใช้งานรวมถึงแบรนด์ต่างๆ ที่ควรรู้และสามารถนำไปใช้งานได้จริงครับ
ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับ Hashtag บน Facebook
- เราสามารถใส่ Hashtag ได้แบบไม่จำกัดในประโยค เพราะไม่มีการจำกัดจำนวนตัวอักษรเหมือนบน Twitter
- การกำหนดชื่อเพื่อใช้เป็น Hashtag จะต้องพิมพ์ติดกันเสมอ รวมทั้งไม่ใช้สัญลักษณ์พิเศษต่างๆ ประกอบในชื่อ hashtag เช่น % & $ ! เป็นต้น เพราะหากเคาะเว้นวรรคหรือใส่สัญลักษณ์แล้ว Tag ที่เกิดขึ้นก็จะนับเฉพาะคำก่อนที่เคาะเว้นวรรคและสัญลักษณ์พิเศษ เช่น #thumbsup-TH, #thumbsup TH ทั้งคู่นี้ Facebook จะคิด Hashtag เป็น #thumbsup เท่านั้นครับ
- เมื่อคลิกที่ Hashtag แล้ว หน้า Feed จะเด้งขึ้นมา โดยจะแสดงหน้า Feed รวมข้อความที่ใช้งาน Hashtag เดียวกันขึ้นมาซ้อนด้านหน้า
- แต่ละ Hashtag จะมี URL เป็นของตัวเอง อยู่ในรูปแบบ https://www.facebook.com/hashtag/<ชื่อ hashtag>
เช่น https://www.facebook.com/hashtag/repost
- สามารถค้นหา Hashtag ได้จากแถบค้นหาด้านบน โดยใส่ # ไว้นำหน้าคำ hashtag ที่ต้องการ หรือสามารถระบุในช่อง URL https://www.facebook.com/hashtag/<ชื่อ hashtag> ได้เช่นกัน
- สามารถเขียนข้อความได้โดยตรงจากหน้าผลการค้นหา Hashtag หรือหน้าที่เราระบุ Hashtag ได้เลย
Tips 10 กว่าข้อสำหรับการใช้ Hashtag
แน่นอนว่าการมาของ Hashtag นั้นทำให้เหล่านักการตลาด รวมทั้งคนดูแลแบรนด์ทั้งหลายนั้นตื่นตัวกันอย่างมาก เพราะนี่คือหนึ่งช่องทางจะสามารถนำเข้าไปยังกลุ่มคนได้ตรงจุดและกว้างกว่าเดิม โดยที่ไม่ต้องเสียเงินลงโฆษณา (แต่ถ้าอยากให้แรงขึ้นก็ต้องอัดฉีดเงินกันตามปกติ) ดังนั้นเราลองมาดูกันว่าเคล็ดลับต่างๆ ที่น่าสนใจว่ามีอะไรบ้าง…
- เลือกใช้คำ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ หรือสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ หรือเป็นแคมเปญเฉพาะเจาะจงที่เราต้องการด้วยความยาวที่เหมาะสม
- เลือกคำที่สั้น, กระชับ และได้ใจความ (short and sweet)
- เลือกใช้คำที่มีความหมายแบบทั่วๆ ไป (Generic Word) เข้าไปในข้อความด้วย เพื่อที่จะให้ข้อความของเราเข้าไปยังกลุ่มที่มีความสนใจด้านนั้นๆ ได้ เช่น #สุขภาพ #เคล็ดลับ #ฮา
- คิดคำที่เราจะหยิบมาใช้เพื่อเข้ากลุ่มทุกครั้งก่อนที่จะเขียนข้อความ รวมทั้ง Hashtag ที่ใช้บนโซเชียลมีเดียตัวอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดควรจะใช้เหมือนกัน
- ใช้ Hashtag ในข้อความอยู่อย่างสม่ำเสมอ
- ไม่มีการกำหนด Hashtag ว่าควรมีได้มากที่สุดเท่าไหร่ แต่ด้วยลักษณะการใช้ด้วยทั่วไปแล้ว โดยเฉพาะแบรนด์ การจงใจใส่ hashtag จำนวนมากๆ เพื่อดักคำทุกอย่างนั้นดูไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ ซึ่งในอนาคตน่าจะมีกระทบในการคิดตำแหน่งการแสดงผลในการค้นหาอย่างแน่นอน (ปัจจุบันยังคงยึดเวลาการเขียนข้อความนำมาแสดงผลในหน้าผลลัพธ์เป็นหลัก ข้อความที่เขียนล่าสุดจะอยู่ในตำแหน่งแรกสุด)
- จำนวนที่เหมาะสม มีการแนะนำว่าไม่ใช้ควรเกิน 2 Hashtags ต่อข้อความ แต่ส่วนตัวมองว่าได้มากถึง 3 ขึ้นอยู่กับความยาวของข้อความครับ
- ไม่จำเป็นว่าจะต้องใส่ Hashtag ไว้ด้านหน้าหรือท้ายสุดเสมอ สามารถแทรกเป็น 1 คำในประโยคของข้อความที่ต้องการได้เลย
- สามารถที่จะเอา URL ของ Hashtag ไปวางไว้บนเว็บไซต์อื่นเพื่อที่จะโยงกลับมายัง Facebook ทั้งนี้ก็เพื่อสร้าง traffic และสร้างโอกาสในการสนทนาได้ครับ
- ใช้ Hashtag เป็นตัวเริ่มการสนทนาเป็นกลุ่ม อย่าลืมว่าทุกๆ Hashtag ที่เราใส่ลงไปในข้อความ จะถูกแบ่งแยกลงไปในแต่ละกลุ่มด้วย
- หากใช้ Hashtag เป็นภาษาอังกฤษ และต้องการสร้าง Hashtag เป็นประโยคสั้นๆ ให้เราใช้ตัวอักษรเริ่มต้นของแต่ละคำเป็นตัวใหญ่เพื่อการอ่านที่ง่ายขึ้น เช่น #EatAllAround, #ILoveYou เป็นต้น ส่วน Hashtag ภาษาไทยนั้นไม่มีปัญหาเรื่องนี้ครับ
- ณ เวลานี้ หากใช้แอพพลิเคชัน Facebook เขียนข้อความ สามารถใส่ Hashtag ได้ตามปกติ โดยในตอนนี้จะยังไม่รองรับการคลิก Hashtag ผ่านหน้าแอพพลิเคชันนะครับ แต่เมื่อเปิดมาดูบนหน้าเบราว์เซอร์แล้วก็จะขึ้นเป็น Hashtag ปกติ
- และ…อย่าลืมที่จะ monitor ดูความเคลื่อนไหวของ Hashtag ด้วย ซึ่งในอนาคตน่าจะได้เห็นเครื่องมือที่เข้ามาช่วยในการดูแล Hashtag ครับ
นี่คือสิ่งที่พอจะนำมาแบ่งปันให้กับผู้อ่านที่เป็นเจ้าของ Page ได้ลองอ่านและศึกษา เพื่อรับมือกับสิ่งใหม่ๆ ที่ทาง Facebook เพิ่มมาให้ใช้งาน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอรับการเปลี่ยนแปลงของ Facebook ที่จะค่อยๆ มีมาเรื่อยๆ ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับผลการแสดงการค้นหาอย่างแน่นอน รวมทั้งอย่างอื่นๆ ซึ่ง Feed ที่อาจจะถูกเปิดตัวก็อาจส่งผลให้กับ Hashtag ด้วย…
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง thumbsup จะนำมาเสนอให้ทุกท่านอ่านอย่างแน่นอนครับ
อ่อ ใครมีเคล็ดลับเพิ่มเติม เชิญร่วมแบ่งปันความคิดเห็นจากช่องแสดงความเห็นด้านล่างครับ
ที่มา: ดัดแปลงและเพิ่มเติมจาก SocialBaker