เพราะธุรกิจงานพิมพ์ 3 มิติหรือ 3D Printing ยังเป็นพื้นที่ธุรกิจใหม่ที่ยังมีผู้เล่นไม่มากนัก ดังนั้นโลกจึงสนใจมากเมื่อเจ้าพ่ออย่าง Amazon ลงมือเปิดร้าน Amazon 3D Printing Store ของตัวเองอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย จุดเด่นของร้านคือลูกค้าสามารถสั่งทำสินค้าและพิมพ์ผลงานได้อย่างเสรี โดยสินค้าครอบคลุมทั้งกลุ่มเครื่องประดับ ของแต่งบ้าน อุปกรณ์เสริมสินค้าไอที และอื่นๆอีกมากมาย
สิ่งที่ Amazon เตรียมไว้ให้ลูกค้าของร้าน Amazon 3D Printing Store คือการนำเสนอสินค้าจากพันธมิตรผู้ดำเนินธุรกิจงานพิมพ์ 3 มิติในสหรัฐฯทั้งบริษัท Mixee, Scupteo และ 3DLT โดยสินค้าจากพันธมิตรเหล่านี้จะเปิดให้ผู้ใช้สามารถเลือกปรับเปลี่ยนดีไซน์ในสไตล์ที่ต้องการ
สินค้าที่ลูกค้า Amazon สามารถสั่งทำได้นั้นรวมถึงของเล่นและเกมด้วย โดยรูปแบบทุกอย่างของสินค้าสามารถปรับเปลี่ยนได้ เช่น ขนาด สีสัน และความหนาบางของวัสดุ จุดนี้ลูกค้าสามารถเพิ่มชื่อหรือใส่ถ้อยคำพิเศษ ลงในสินค้าเพื่อแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของสินค้าชิ้นนั้นได้
หลังการปรับแต่งรูปแบบสินค้าแล้ว Amazon และแสดงภาพสินค้าแบบ 360 องศาแก่ลูกค้าทุกคนในร้าน 3D Printing Store เพื่อให้แน่ใจว่าต้องการสินค้าที่สร้างไว้จริง ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าตรวจทานผลงานอีกรอบก่อนชำระเงิน อย่างไรก็ตาม Amazon ยังจำกัดให้ลูกค้าได้เลือกปรับแต่งดีไซน์ตามแบบที่มีให้เลือกเท่านั้น และไม่เปิดโอกาสให้ลูกค้าอัพโหลดผลงานการออกแบบ 3 มิติของตัวเอง
จุดที่สำคัญของร้าน Amazon 3D Printing Store คือสินค้าส่วนใหญ่มีราคาต่ำกว่า 30 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 960 บาท ถือว่าเป็นราคาที่สามารถเอื้อมถึงมากกว่าสินค้าสั่งทำบางอย่างที่จำหน่ายในปัจจุบัน
จากการสำรวจจำนวนสินค้า พบว่า Amazon ชิมลางธุรกิจ 3D Printing Store ด้วยสินค้าหลักร้อยชิ้น ตัวอย่างเช่นสินค้า 3D Printing หมวด Home & Kitchen นั้นมีอยู่ราว 83 ชิ้น ขณะที่หมวด Creative มีให้เลือกราว 27 ชิ้น และหมวด 3D Printed Jewelry มีให้เลือก 97 ชิ้น เป็นต้น ทั้งหมดนี้เชื่อว่า Amazon จะเพิ่มจำนวนและขยายธุรกิจ 3D Printing Store อย่างต่อเนื่องช่วงปีหน้าแน่นอน
สุดท้ายการออกตัวช้ากว่า ebay ในการเปิดร้าน 3D Printing ของ Amazon นั้นจะเป็นอย่างไร คงต้องดูกันหนักๆ หล่ะครับ
ที่มา: Amazon 3D Printing Store