Amazon ประกาศผลกำไรสูงขึ้นจนหุ้นดีดตัวสูงลิ่ว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือธุรกิจโฆษณากลับชะลอตัวลง ส่งให้เกิดคำถามว่า Amazon อาจไม่ใช่ม้ามืดในวงการโฆษณาออนไลน์ที่สามารถคว่ำ Google หรือ Facebook ได้อย่างที่หลายคนคิด
ผลประกอบการรายไตรมาสของ Amazon นั้นได้รับความสนใจจากโลกเพราะเป็นสถิติที่สามารถบอกใบ้ความเป็นไปของวงการอีคอมเมิร์ซได้ สำหรับไตรมาสล่าสุด Amazon เรียกความมั่นใจจากนักลงทุนจนทำให้มูลค่าหุ้นพุ่งขึ้นทันที 2% เพราะผลกำไรที่สะท้อนการขยายตัวอย่างมากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ในรายงานผลประกอบการล่าสุด Amazon เปิดเผยว่ายอดขายรายไตรมาสมีมูลค่ารวม 59,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 51,040 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ประเมินไว้ 59,680 ล้านดอลลาร์ หากมองที่กำไร Amazon มีกำไรต่อหุ้นราว 7.09 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากการคาดการณ์ของบริษัทวิจัย FactSet ที่ประเมินไว้ 4.70 ดอลลาร์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม กำไรที่สูงนั้นเป็นผลจากรายรับส่วนอื่น เพราะกำไรจากการดำเนินงานที่คำนวณเฉพาะรายรับจากธุรกิจของ Amazon กลับต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อย โดยทำได้ประมาณ 2,290 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมิน 3,100 ล้านดอลลาร์
หลังการประกาศสถิติเหล่านี้ ราคาหุ้นของ Amazon ขึ้นและทรงตัวจนปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1,914 ดอลลาร์ ทำให้โลกลุ้นว่ามูลค่าหุ้น Amazon จะแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จหรือไม่
ธุรกิจคลาวด์โต แต่โฆษณาหด
แม้จะทำผลงานได้ดีกว่าที่ถูกประเมินหลายจุด โดยเฉพาะธุรกิจเว็บโฮสติ้งอย่าง AWS ที่เติบโตขึ้นอย่างมากในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ Amazon ก็ยังมีบางธุรกิจที่ไม่สมบูรณ์แบบ 100% นั่นคือธุรกิจโฆษณาที่ถูกดึงไปอยู่กับหน่วยธุรกิจอื่นๆ (other) ซึ่งฉุดให้รายได้ในหน่วยธุรกิจนี้ลดลงชัดเจน
Amazon ระบุว่าบริการ AWS เติบโตขึ้นมากในไตรมาสที่ผ่านมาจนมีรายรับ 7,700 ล้านดอลลาร์ สูงกว่า 5,440 ล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ยอดขายในธุรกิจกลุ่ม other ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบมาจากธุรกิจโฆษณาที่เป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ที่ Amazon ขยายกิจการอย่างรวดเร็วนั้นมีรายรับ 2,710 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสนี้ ลดลงจากปีที่แล้วที่ทำได้ 3,390 ล้านดอลลาร์
จุดนี้ มีการวิเคราะห์ว่าการลดลงของหน่วยธุรกิจโฆษณา Amazon อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางบัญชีที่บริษัทนำมาใช้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดประเภทรายได้ค่าโฆษณา โดยตัวเลขนี้ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ที่ถูกบันทึกสถิติ 2,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ไม่ว่าอย่างไร การชะลอตัวของธุรกิจโฆษณา Amazon ก็ได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะ Amazon ถูกมองว่าเป็นม้ามืดในตลาดโฆษณาดิจิทัล ส่วนหนึ่งมาจากภาพลักษณ์ผู้เล่นที่โดดเด่นและมีศักยภาพในการทำลายการผูกขาดของ Google และ Facebook แต่การได้เห็นรายรับที่ลดลง ก็ถือว่าเป็นสัญญาณเชิงลบสำหรับนักลงทุน เนื่องจากก่อนหน้านี้ Amazon เติบโตขึ้นทุกไตรมาสจนถึงปัจจุบัน
ภาวะนี้ถูกมองว่าอาจเป็นการชะลอตัวชั่วคราวก็ได้ เพราะดูเหมือนว่าธุรกิจโฆษณาของ Amazon จะเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้การเติบโตอาจชะลอตัวลงชั่วคราว ซึ่งโลกจะยังต้องคอยจับตาดูต่อไปว่าศึกโฆษณาออนไลน์ในอนาคตจะออกหัวหรือก้อย
ที่มา: : FastCompany