Amazon เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Prime Pantry เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อให้ลูกค้าใน 48 รัฐทั่วสหรัฐฯ สามารถสั่งซื้อของชำกับ Amazon ได้อย่างสะดวกสบายในราคาไม่เกินเอื้อม ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่า Amazon มองเห็นความสำคัญของตลาดร้านชำออนไลน์ ซึ่งไม่แน่ เทรนด์นี้อาจขยายวงจากตลาดสหรัฐฯมายังตลาดอีคอมเมิร์ชเมืองไทยในอนาคตก็ได้
บริการ Prime Pantry จะเปิดให้เฉพาะผู้เป็นสมาชิกบริการ Prime ดั้งเดิมใน 48 รัฐสามารถสั่งสินค้าลงกล่องขนาด 4 ฟุตน้ำหนักไม่เกิน 45 ปอนด์ เพื่อให้ Amazon จัดส่งสินค้าของชำถึงบ้านโดยคิดค่าจัดส่ง 5.99 เหรียญหรือประมาณ 200 บาท
ทั้งหมดนี้ โฆษก Amazon ให้ความเห็นกับสำนักข่าว GeekWire ว่าค่าธรรมเนียมจัดส่งสินค้าทำให้ Amazon สามารถให้บริการสินค้าใหม่หลายร้อยรายการ ทั้งซีเรียลอาหารเช้า สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป หรือแม้แต่น้ำดื่มบรรจุขวด แต่น่าเสียดายที่ลูกค้าผู้สั่งซื้อในบริการ Prime Pantry จะต้องรอเวลาจัดส่งมากกว่า 1-4 วันทำการ ซึ่งถือว่านานมากเมื่อเทียบกับบริการ Amazon Prime ที่จัดส่งสินค้าเพียง 2 วันเท่านั้น
การเปิดตัวบริการ Prime Pantry นั้นเกิดขึ้นหลังจากมีข่าวลือหนาหูช่วงปลายปีที่ผ่านมา ครั้งนั้นข่าวลือระบุว่า Amazon ต้องการแข่งขันกับเจ้าพ่อค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Walmart ซึ่งเสนอตัวเข้ามาชิงตลาดออนไลน์เช่นกัน ทั้งหมดนี้ทำให้ Amazon ต้องพยายามแก้เกมด้วยการขยายธุรกิจเข้าไปสู่ตลาดค้าขายของชำในครัวเรือนบ้าง
นอกจาก Prime Pantry เจ้าพ่ออย่าง Amazon เตรียมพร้อมจริงจัดด้วยการทดสอบบริการสแกน barcode เพื่อให้ลูกค้าในซานฟรานซิสโกและลอสแองเจลิสสามารถสั่งสินค้าของสดผ่านบริการ Amazon Fresh ได้สะดวกสบาย ขณะเดียวกันยังมีบริการ Amazon Dash แอปพลิเคชันสั่งงานด้วยเสียงที่จะเพิ่มรายการสินค้าที่ถูกสแกน barcode ลงในตระกร้าสินค้าออนไลน์แบบอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดนี้ดูแล้วเหมือนการปูทางไปสู่การให้บริการ Prime Pantry อย่างจริงจัง
ความพยายามเหล่านี้สะท้อนว่า Amazon ไม่ได้มองตลาดของชำออนไลน์เป็นของเล่น แต่เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซโลกตั้งความหวังว่าจะสามารถขยายธุรกิจในตลาดของชำออนไลน์สหรัฐฯได้อย่างยั่งยืน จุดนี้หากมองอีคอมเมิร์ซไทยที่ถอดแบบการเติบโตของอีคอมเมิร์ซอเมริกันในบางมุม ก็มีโอกาสเช่นกันที่เจ้าพ่อตลาดออนไลน์จะหันมาเล่นในตลาดของชำออนไลน์บ้างในอนาคต
ผู้สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดของบริการ Prime Pantry ได้จากวิดีโอด้านล่าง
ที่มา : GeekWire