ขนาดยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ยังไม่อยากสู้ในตลาดบริการรับส่งอาหารจากร้าน ล่าสุดมีรายงานว่าบริการจัดส่งอาหาร Amazon Restaurants กำลังเตรียมโบกมือลาสหรัฐฯช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ปิดฉากหลังจาก Amazon เริ่มต้นให้บริการครั้งแรกที่ซีแอตเทิลตั้งแต่ปี 2015
ในช่วงเวลามากกว่า 3 ปีที่ผ่านมา Amazon Restaurants ขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุมเมืองใหญ่ 20 เมืองในสหรัฐฯ และล่าสุดคือลอนดอน บริการนี้เปิดให้สมาชิก Prime สามารถสั่งอาหารจากร้านผ่านทั้งหน้าเว็บไซต์ของ Amazon Restaurants และแอปพลิเคชัน Prime Now ที่สมาชิกใช้ช็อปปิ้ง แต่ทุกอย่างไม่สวยงามอย่างที่คิด ทำให้ Amazon ยกเลิกบริการในลอนดอนตั้งแต่พฤศจิกายนปีที่แล้ว
เวลาผ่านไปไม่ถึง 6 เดือน โฆษก Amazon ระบุกับสำนักข่าว GeekWire ว่าบริการจัดส่งอาหาร Amazon Restaurants จะปิดบริการในสหรัฐฯตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายนนี้ โดยย้ำว่าพนักงานที่จะได้รับผลกระทบจากการปิดบริการมีจำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่ถูกโยกย้ายไปดำเนินงานในตำแหน่งหน้าที่อื่น ขณะที่อีกส่วนได้รับการสนับสนุนเป็นรายคนเพื่อค้นหางานใหม่ทั้งภายในหรือภายนอกบริษัท
สู้ไม่ไหว
การปิดบริการ Amazon Restaurants ถูกแปลความหมายว่าเป็นการยอมรับความพ่ายแพ้ว่าไม่สามารถสู้กับยักษ์ใหญ่บริการส่งอาหารทั้ง Uber Eats และ GrubHub ในตลาดสหรัฐฯ รวมถึงตลาดอังกฤษที่ทำให้ Amazon ตัดสินใจลงทุนกว่า 575 ล้านเหรียญกับบริการ Deliveroo ซึ่งเป็นคู่แข่งกับ Uber Eats โดยตรงในแดนผู้ดีตั้งแต่พฤษภาคมที่ผ่านมา
Uber, Grubhub และอีกรายคือ DoorDash นั้นแข่งกันเติบโตรวดเร็วในตลาดบริการรับส่งอาหารอเมริกันตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้ง 3 บริษัทนี้มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันมากกว่า 75% เมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดเดลิเวรี่ในสหรัฐอเมริกา
เฉพาะ Uber Eats ซึ่งเปิดบริการมานานกว่า 3 ปี ขยายไป 500 เมืองทั่วโลก รายงานระบุว่า Uber Eats ทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 1.46 พันล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา เติบโตจาก 587 ล้านเหรียญในปี 2017 ซึ่งเพียงไตรมาส 1 ปีนี้ (2019) Uber Eats ก็สามารถทำเงินได้แล้ว 536 ล้านเหรียญ
พยายามแล้วนะ
ก่อนหน้านี้ Amazon Restaurants พยายามสู้ด้วยการประกาศลดจำนวนพนักงานตั้งแต่ปี 2018 พร้อมกับการขยายบริการไปยังตลาดใหม่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็มีการอัปเดทบล็อกบริษัทต่อเนื่อง ร่วมกับการโพสต์ฟีดบน Twitter ที่ยังแอคทีฟจนถึงเดือนที่ผ่านมา และการโพสต์รับสมัครงานที่ยังมีให้เห็นในช่วงกุมภาพันธ์
แต่ทั้งหมดไม่เป็นผล ทำให้ Amazon ตัดสินใจปิดบริษัท Daily Dish ซึ่งเป็นส่วนธุรกิจที่ดูแลงานบริการด้านจัดส่งอาหารโดยเฉพาะของ Amazon Restaurants เบื้องต้น Daily Dish ปิดตัวลงแล้วเมื่อ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา
ความล้มเหลวครั้งนี้ของ Amazon Restaurants ถูกนำไปเชื่อมโยงกับบริการ AmazonFresh ที่เปิดตลาดในซีแอตเทิลเมื่อ 10 ปีที่แล้ว บริการจัดส่งผักสดผลไม้และสินค้าในร้านชำทำให้ Amazon คิดขยายไลน์ไปสู่การสั่งซื้ออาหาร เพื่อเพิ่มความครบวงจรให้ Amazon แข็งแรงขึ้น แต่วันนี้ Amazon ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่า Amazon จะบุกตลาดร้านอาหารอย่างไรต่อไปในอนาคต โดยขณะนี้ Amazon ยืนยันว่าจะยังคงให้บริการจัดส่งสินค้าของชำจากร้าน Whole Foods ที่ผู้ใช้สั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน Prime Now ต่อไปใน 100 เมืองทั่วสหรัฐฯ
ที่มา: : Fastcompany