ยักษ์ใหญ่ผู้ค้าปลีกออนไลน์ “Amazon” ส่งสัญญาณพร้อมรบในตลาดรายการทีวีหรือทีวีโชว์เต็มรูปแบบ ด้วยการเปิดตัว 14 โครงเรื่องให้ชาวออนไลน์ได้ร่วมโหวตเพื่อนำไปสร้างต่อเป็นซีรียส์เต็มรูปแบบในอนาคต งานนี้ Amazon ถูกทั่วโลกจับตาว่าจะสามารถยิงนัดเดียวได้นก 2 ตัว ทั้งในตลาดความบันเทิงและตลาดค้าปลีกออนไลน์
14 โครงเรื่องนี้ถูกเปิดตัวในนามของ Amazon Studios ภายหลังการผลิตหรือโปรดักชันที่กินระยะเวลานานหลายเดือน ในที่สุด 6 โครงเรื่องซีรียส์สำหรับเด็กและ 8 โครงเรื่องซีรียส์คอมมาดี้ตลกเฮฮาถูกนำมาเปิดตัวแล้วที่เว็บไซต์ Amazon โดยจะมี 2 โครงเรื่องเท่านั้นที่จะถูกนำไปสร้างเป็นซีรียส์เต็มรูปแบบ และจะถูกเปิดตัวเพื่อให้บริการแก่สมาชิกผู้สมัครบริการวิดีโอสตรีมมิงของ Amazon ในอนาคตอันใกล้
ผู้ที่อาศัยในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และเยอรมนีจะสามารถชมโครงเรื่องทั้ง 14 เรื่องได้ฟรีที่ Amazon.com โดยผู้ชมจะถูกขอให้ทำแบบสอบถามเพื่อร่วมออกความเห็นว่าต้องการเห็นโครงเรื่องใดถูกนำไปพัฒนาเป็นรายการโชว์เต็มรูปแบบ หรือซีรียส์ใดที่ยังไม่เข้าขั้น
หาก 2 ซีรียส์นี้ถูกสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ สมาชิกที่ลงทะเบียนกับ Amazon ในราคา 79 เหรียญสหรัฐต่อปีเพื่อใช้บริการ Amazon Prime (บริการที่จะสามารถสั่งสินค้ากับ Amazon.com เพื่อส่งถึงบ้านในเวลา 2 วัน) จะสามารถเปิดชมซีรียส์เหล่านี้ที่ร้านดาวน์โหลดภาพยนตร์และรายการทีวีแบบสตรีมมิงสำหรับชมบนเครื่อง Kindle ได้ โดยผู้ชมจะสามารถชมรายการโชว์อื่นๆ ได้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า Amazon พยายามผสานธุรกิจที่มีและใช้กลยุทธ์เพื่อให้ชาวออนไลน์หลงอยู่ในวังวนของ Amazon ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยขณะนี้ Amazon ยังไม่กำหนดว่าจะเปิดให้ลูกค้าชมซีรียส์ทุกตอนแบบรวดเดียวอย่างที่ Netflix ทำกับซีรียส์ของตัวเองเรื่อง House of Cards หรือจะเปิดให้ชมแบบแบ่งตอนตามสไตล์รายการทีวีทั่วไป
การที่บริการวิดีโอสตรีมมิงออนไลน์อย่าง Netflix เผยแพร่ซีรียส์ของตัวเองเรื่อง House of Cards แบบรวดเดียวนั้นถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เพราะเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่ House of Cards ซีรียส์แรกเริ่มเปิดให้ชมด้วยความยาว 13 ชั่วโมงในวันที่ 1 กุมภาพันธที่ผ่านมา Netflix ก็ประกาศว่าภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย Kevin Spacey นั้นกลายเป็นโชว์ที่มีผู้ชมมากที่สุดบน Netflix ความสำเร็จนี้ทำให้ Netflix เต็มใจไฟเขียวลงทุนสร้างเพิ่มอีก 26 บทในช่วงกลางปีนี้ หลังจากอนุมัติการสร้าง 13 บทไปแล้วด้วยเงินทุนที่เชื่อกันว่าสูงถึง 78 ล้านเหรียญสหรัฐ
ความสำเร็จของ Netflix ยังไม่สามารถวัดได้ในแง่ของตัวเงิน เพราะยังไม่มีการเปิดรับโฆษณา จุดนี้ทำให้ซีรียส์ที่ Netflix ออกทุนสร้างเองไม่ถูกนำไปเทียบในระบบวัดความนิยมเหมือนรายการทีวี
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากข่าวนี้ คือความเคลื่อนไหวของ Amazon ล้วนผลักดันให้ผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิงอย่าง Netflix และ Hulu ต้องเพิ่มทุนและลงมือสร้างซีรียส์ของตัวเองขึ้นมา ขณะที่ซีรียส์ของ Amazon ก็จะช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่ากับการสมัครบริการของ Amazon มากกว่าผู้ค้าปลีกออนไลน์รายอื่น รวมถึงผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิงด้วย
สรุปง่ายๆ คือตลาดออนไลน์ปีหน้าแข่งขันดุเดือดแน่นอน ทั้งด้านบันเทิงและอีคอมเมิร์ซ
ที่มา: Mashable