หนึ่งในความเคลื่อนไหวน่าสนใจของวงการธุรกิจจำหน่ายแอปพลิเคชันช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคือการตัดสินใจยกเลิกบริการ AppStore TestDrive ซึ่ง Amazon เปิดให้ผู้ใช้ได้ทดลองใช้งานก่อนการคลิกซื้อแอปพลิเคชันมาตั้งแต่ปี 2011 แน่นอนว่าการยกเลิกครั้งนี้สะท้อนพฤติกรรมและความเปลี่ยนแปลงในวงการแอปพลิเคชันที่ผู้เกี่ยวข้องทุกคนควรรู้
Amazon นั้นประกาศว่าลูกค้าจะไม่สามารถทดลองใช้หรือ preview แอปพลิเคชันได้ผ่านบริการ TestDrive อย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 15 เมษายนที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐฯ ก่อนที่การประกาศอย่างเงียบเชียบนี้จะกลายเป็นข่าวบนโลกโซเชียลช่วงวันศุกร์และเสาร์ที่ 17-18 เมษายน
การยกเลิกบริการนี้เป็นการตัดสินใจของ Amazon ซึ่งให้บริการนี้ในเดือนมีนาคม 2011 บนความหวังว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มยอดขายแอปพลิเคชัน เนื่องจากลูกค้าที่ทดลองใช้แอปแล้วชื่นชอบ ย่อมจะยอมควักเงินจากกระเป๋าเพื่อซื้อแอปได้ง่ายกว่า
อย่างไรก็ตาม Amazon ระบุในบล็อกโพสต์เมื่อ 16 เมษายนว่ารูปแบบธุรกิจแอปพลิเคชันฟรีหรือ “free to play” คือสาเหตุที่ทำให้บริการ TestDrive มีผู้ใช้น้อยลง จนทำให้ Amazon ตัดสินใจยุติบริการในที่สุด จุดนี้ผู้บริหาร Amazon อย่าง Corey Badcock ระบุว่ามีแอปพลิเคชันเพียง 16,000 แอปเท่านั้นที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถทดลองใช้บนฟีเจอร์ TestDrive
สิ่งที่ทำให้นักพัฒนาแอปไม่ศรัทธาจนเมินฟีเจอร์ TestDrive มากขึ้นคือการไม่หวังให้ผู้ใช้คลิกซื้อแอป โดยเฉพาะเมื่อแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ในวงการโมบายล์แอปนั้นเป็นแอปพลิเคชันกลุ่มเกม ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้เล่นฟรีให้มากที่สุดเพื่อรับรายได้จากการโฆษณาและการขายสินค้ารวมถึงบริการในเกม ดังนั้นเมื่อไม่หวังรายได้จากการขายแอปพลิเคชัน นักพัฒนาจึงไม่เห็นประโยชน์ของฟีเจอร์ TestDrive จนอัตราการใช้งานมีจำนวนลดลงอย่างชัดเจน
ในมุมของผู้ใช้ แม้ Amazon จะไม่เปิดเผยจำนวนความถี่ในการทดลองใช้แอป ซึ่งทำให้ไม่มีความชัดเจนว่าผู้ใช้อุปกรณ์พกพามีความไม่สนใจในการทดลองใช้บริการแอปพลิเคชันก่อนซื้อมากน้อยเพียงใด แต่เบื้องต้นคาดว่าสัดส่วนนี้อยู่ในช่วงขาลงไม่แพ้กัน ทำให้การยกเลิกบริการ TestDrive มีผลทันทีนับตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนเป็นต้นมา
ที่มา : Register