ตอนนี้แบรนด์ส่วนใหญ่ทำการตลาดออนไลน์กันเป็นหลัก แต่น้อยแบรนด์ที่จะรู้เทคนิคในการวัดผลการโปรโมท เช่น การ track คอนเทนต์หรือแคมเปญที่โปรโมทจริงๆ นอกจาก stat ของแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ได้ผลออกมา
แต่หากจะพูดถึงยอดขายจริงๆ การวัดผลจากระบบหลังบ้านแบบนี้ ดูไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ ถึงแม้จะมีการบอกว่าได้ว่ามียอดคลิกไปหน้าซื้อสินค้าเท่าไหร่ก็ตาม วันนี้เราเลยมีทริคในการวัดผลแคมเปญให้ได้ประสิทธิภาพค่ะ
สร้าง Link สำหรับโปรโมทแต่ละช่องทาง
การโปรโมทมีเดียแต่ละครั้งส่วนใหญ่มักจะใช้หลายมีเดียและหลายช่องทาง เช่น โปรโมทสินค้าบน 5 Facebook Page หากยอดที่กลับมาเป็นไปตามคาด เราอาจจะคิดว่าทั้ง 5 เพจโปรโมทดีหมด ซึ่งจริงๆ แล้วอาจไม่เสมอไป แต่ถ้าเราอยากวิเคราะห์ให้ลึกกว่านี้ ให้เจนลิงค์สำหรับเพจแต่ละเพจเลย
เมื่อแทร็คยอดจะได้รู้ว่าแต่ละเพจมีคนกลับมาติดตามเราเท่าไหร่ จากเพจไหนมากที่สุด เพราะบางทีใน 5 เพจนี้อาจจะมีแค่เพจเดียวที่ยอดกลับมาดี ส่วนอีกสี่เพจน้อยมาก พอโปรโมทครั้งหน้าเราจะได้เลือกเพจที่เหมาะสมกับสินค้าของเราได้แม่นยำขึ้น
ใช้ Collection Ads สำหรับ E-Commerce
แอดที่ได้รับความน่าสนใจจากแบรนด์ที่สุดตอนนี้คือ Collection Ads บน Facebook เพราะกดคลิกเข้าไปแล้ว แอดจะเข้าไปแสดงผลที่ช่องทางการขายออนไลน์โดยตรง เพราะตอนนี้ส่วนใหญ่แบรนด์จะมีช่องทาง E Commerce เป็นของตัวเองกันแล้ว
ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ต้องวกกลับไปที่เพจ หรือเว็บ ซึ่งยังไม่ใช่ช่องทางปิดการขายจริงๆ โดยหน้าของ Collection Ads ก็เหมือน Photo Album แต่โคเวอร์สามารถเป็นวีดีโอได้ และลูกค้าเมื่อกดไปดูสินค้าเต่ละอย่าง ก็เข้าสู่หน้าขายสินค้าชิ้นนั้นทันที สะดวกรวดเร็ว และปิดการขายได้ง่าย จึงเป็นที่นิยมในตอนนี้อย่างมาก
วัดผลแคมเปญเป็นราย 2 สัปดาห์
อันนี้เรียกว่าเป็นทริคซะมากกว่า แคมเปญส่วนใหญ่จะมีการตั้งระยะเวลาอยู่ที่หนึ่งเดือนขึ้นไป แล้วเรามักจะเจอกับปัญหาจบแคมเปญแล้ว แต่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าเลย กลายเป็นว่าสิ่งที่ลงทุนลงแรงไปกลับไม่ได้เป็นไปตามเป้า แนะนำว่าควรประชุมอย่างจริงและเช็คยอดตาม KPI ทุกสองสัปดาห์
เพราะเป็นเวลาที่ไม่มากไม่น้อยไป มีช่วงเวลาเพียงพอที่หากปรับเปลี่ยนแผนก็สามารถทำได้และทำทันที ไม่ต้องมาปวดหัวทีหลัง
เช็ค CTR สม่ำเสมอ
เป้าหมายของการโปรโมทออนไลน์สำหรับแบรนด์ใหญ่มักจะเป็น Awareness เสมอ การเช็ค CTR (อัตราจำนวนคลิกในโพสต์) เหมือนกรองลูกค้าที่มองเห็นว่าให้ความสนใจต่อโพสต์จะอยากรู้ข้อมูลมากขึ้นหรือสนใจจนอยากจะสั่งมากแค่ไหน แถมยังช่วยให้รู้ว่าช่องทางโปรโมทด้านออนไลน์ของเรา ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากไหนบ้าง ซึ่งเช็คภาพรวมได้จาก Google Analytics อีกที
การโปรโมทแคมเปญออนไลน์ ไม่มีอะไรตายตัวมากนักและนักการตลาดยังต้องปรับเปลี่ยนทริคไปเรื่อยๆ ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้คนเริ่มให้ความสนใจมากกว่าการโปรโมทสื่อออนไลน์เพียงช่องทางเดียว แต่เป็นการรวมระหว่างสองแพลตฟอร์มเข้าด้วยกัน เช่น Facebook+ Lazada เพื่อให้ข้อดีแต่ละแพลตฟอร์มมารวมกัน หากใครมีทริคดีๆ หรืออยากให้แชร์ประเด็นไหน คอมเมนต์เข้ามาได้เลยค่ะ