จากคำถามข้างต้น หลายคนอาจจำไม่ได้ เพราะมันนานมากแล้ว ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณอันตรายที่กำลังชี้ให้เห็นว่า แอปพลิเคชันเกิดใหม่อาจตายก่อนได้โตเสียแล้วในยุคนี้
โดยยุคที่ตลาดแอปพลิเคชันบูมสูงสุดอาจเป็นในช่วงปี 2008 เมื่อ Apple เปิดตัว App Store แต่ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมีแอปที่ตนเองชื่นชอบและใช้เป็นประจำเต็มเครื่องแล้ว และบางคนก็พอใจกับสิ่งที่มี ไม่ได้มองหาแอปต่าง ๆ มาติดตั้งเพิ่มอีก
ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของบริษัท Nomura พบว่า ในเดือนที่ผ่านมา ผู้พัฒนาแอประดับท็อป 15 บริษัทมียอดการดาวน์โหลดแอปลดลงเฉลี่ย 20 เปอร์เซ็นต์ (เฉพาะในสหรัฐอเมริกา) และเมื่อหันมามองยอดการดาวน์โหลดนอกสหรัฐอเมริกา ทั้ง 15 บริษัทมีอัตราการเติบโตเพียง 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น (เดือนพฤษภาคม)
จะมีเพียงสองค่ายที่มีสถิติการเติบโตสูงอยู่ นั่นก็คือ Snapchat และ Uber ซึ่งเฉพาะในสหรัฐอเมริกานั้น สถิติการดาวน์โหลด Snapchat ได้แซงหน้า Facebook ไปแล้ว
สำหรับเทรนด์ดังกล่าว จึงไม่น่าแปลกใจหาก Facebook จะพยายามอย่างหนักที่จะกระจายการใช้งานอินเทอร์เน็ตไปยังพื้นที่ห่างไกล หรือในประเทศยากจน ซึ่งหลายครั้งเข้าไปให้บริการแบบฟรี ๆ กันเลยก็มี และในขณะเดียวกัน Facebook ก็เริ่มตัดฟีเจอร์บางอย่างบนแอปหลักของตนเองทิ้ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันไปติดตั้งแอปในเครือเดียวกันเพิ่ม ดังเช่นกรณีของ Messenger และ Moments ซึ่งนอกจากจะช่วยแจ้งเกิดให้แอปน้องใหม่ในค่ายแล้ว ยังทำให้ตัวเลขสถิติในการดาวน์โหลดของแอปน้องใหม่ติดอยู่ในชาร์ตด้วย ซึ่ง Facebook ที่มีฐานผู้ใช้สูงกว่า 1.5 พันล้านรายก็สามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็น
แต่ถ้าเป็นนักพัฒนาตัวเล็กกระจิ๋ว กับแอปที่ไม่โด่งดัง และไม่มีฐานผู้ใช้บิ๊กเบิ้มระดับ Facebook สถานการณ์จะเปลี่ยนไปทันที เพราะตลาดแอปพลิเคชันเองก็ไม่ต่างจากตลาดของโทรศัพท์มือถือ ที่ในวันนี้ หากไม่สามารถหาโอกาส หรือเปิดตลาดใหม่ได้ ก็มีสิทธิเจอสภาวะที่ยอดการดาวน์โหลดไม่เติบโตอีกต่อไปเช่นกัน
ที่มา Recode