อาจเป็นการเจรจาที่ทำให้โลกก้าวสู่มิติใหม่แห่งการรับชมภาพยนตร์ได้เลยทีเดียว เมื่อมีรายงานว่าค่าย Apple กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดอย่าง 21st Century Fox, Time Warner, Warner Bros และ Universal Pictures ในการขอภาพยนตร์มาฉายในระบบของ Apple หรือก็คือ iTunes พร้อมๆ กับที่ฉายในโรงภาพยนตร์
ทั้งนี้ หากดีลดังกล่าวเกิดขึ้นได้จริงย่อมหมายถึงความได้เปรียบที่จะเกิดกับ iTunes อย่างมากในตลาดภาพยนตร์ออนไลน์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว สตูดิโอจากฮอลลีวูดเหล่านี้จะให้สิทธิพิเศษแก่โรงภาพยนตร์ก่อนเป็นเวลา 90 วัน จากนั้นสิทธิ์ของภาพยนตร์จึงจะตกทอดถึงมือของผู้ผลิตดีวีดี หรือจำหน่ายผ่านออนไลน์ต่อไป
แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ดีลดังกล่าวมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้สูง เนื่องจากรายได้จากโรงภาพยนตร์ค่อนข้างนิ่ง จำนวนผู้เข้าชมภาพยนตร์ไม่เพิ่มขึ้น ส่วนรายได้จากการขายแผ่นซีดีก็ไม่กระเตื้องมาเป็นเวลา 2 – 3 ปีแล้ว ดังนั้น บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ก็ต้องพิจารณาช่องทางหารายได้ใหม่ๆ บ้างเป็นธรรมดา เห็นได้จากการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารจาก Warner Bros อย่าง Kevin Tsujihara ที่มองว่า การให้บริการส่งตรงภาพยนตร์อย่างรวดเร็วถึงบ้านผู้บริโภคนี้จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคและลดปัญหาด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ลงได้
สำหรับราคาของการรับชมภาพยนตร์ใหม่แกะกล่องนี้ก็อาจจะพรีเมียมตามสิทธิไปด้วย โดยราคาอาจอยู่ระหว่าง 25 – 50 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 900 – 1,780 บาท (ขึ้นอยู่กับแต่ละสตูดิโอ)
ความกังวลใจข้อเดียวเกี่ยวกับ iTunes อาจเป็นเรื่องแพลตฟอร์มระบบรักษาความปลอดภัยว่าจะจัดส่งภาพยนตร์ที่ยังฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์นี้ไปให้ถึงมือผู้บริโภคได้โดยไม่ถูกดูดไปเพื่อการละเมิดลิขสิทธิ์ได้หรือไม่ หรือหากผู้ซื้อภาพยนตร์ไปชมตั้งกล้องบันทึกภาพไปด้วย ก็จะกลายเป็นการเปิดช่องให้มีการละเมิดลิขสิทธิกันได้อย่างมโหฬาร สุดท้าย ช่องทางที่มองว่าจะเป็นการสร้างรายได้ก็อาจกลายเป็นช่องโหว่ใหญ่ที่จะทำลายรายได้ของวงการภาพยนตร์เสียเองในที่สุด
ที่มา: Bloomberg