หลังจากที่นั่งอยู่บนหอคอยงาช้างอย่างสุขสบายมานาน วันนี้หอคอยของ Apple โดนเขย่าซะแล้ว หลังจากที่มูลค่าตลาดหรือ Market Cap ของ Apple ลดถอยลงอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันลงมาอยู่ที่ต่ำกว่า 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้ว ถือเป็นมูลค่าที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 1 ปี
Market Cap นั้นหมายถึงมูลค่ากิจการตามราคาในตลาดของบริษัทนั้นๆ โดยจะคำนวณได้จากการนำจำนวนหุ้นสามัญที่ออกจำหน่ายแล้วมาคูณกับราคาหุ้นปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้านี้ รายงานระบุว่ามูลค่าตลาดของ Apple ขึ้นสูงเกินกว่าหลัก 400,000 ล้านเหรียญเป็นครั้งแรกในเดือนมกราคมปี 2012 จากนั้นก็พุ่งทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากการเปิดตัวไอโฟน 5 ในเดือนกันยายน มูลค่าทางการตลาดของ Apple ก็ขึ้นไปสูงสุดที่ 650,000 ล้านเหรียญ
แต่หลังจากที่เปิดขายไอโฟน 5 อย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม มูลค่าหุ้น Apple ก็ตกต่ำลงจนทำให้มูลค่าตลาดของ Apple ลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดคือต่ำกว่าระดับ 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จุดนี้หลายคนมองว่าสาเหตุที่ทำให้มูลค่าตลาด Apple ลดลงคือการที่นักลงทุนเป็นกังวลเกี่ยวกับกำไรที่ลดลง จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ ของบริษัทที่ไม่มีการเปิดเผย
Tim Cook ประธานบริหารของ Apple ออกมาให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่าทางบริษัทเองก็ไม่ปลื้มกับตัวเลขที่เป็นอยู่ และกำลังมองหากลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งก็สอดคล้องกับรายงานของทาง Bloomberg ที่รายงานว่า Apple กำลังซุ่มพัฒนานาฬิกาอัจริยะ smart watch และเตรียมจะเปิดตัวภายในปีนี้
นี่เป็นเพียงหนึ่งในมรสุมที่ Apple พบเจอในระยะนี้ เพราะช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งทบทวนเงินชดเชยที่ Samsung ต้องจ่ายให้ Apple ซึ่งอาจมีผลทำให้ Apple ได้รับเงินชดเชยน้อยลงเกือบครึ่ง แทนที่จะได้รับเงินก้อน 1.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างที่ศาลสั่งในรอบแรก
ที่มา: Mashable