หลังจากมีการเปิดตัวบริการการฟังเพลงออนไลน์ของ Apple ภายใต้ชื่อ Apple Music ในงาน WWDC 2015 ในแง่ของผู้ใช้งานก็ถือเป็นเรื่องดีมากเพราะจะได้ทดลองใช้ฟรีถึง 3 เดือน ในทางกลับกัน คนที่ผลิตผลงานเพลงคงไม่ค่อยปลื้มนัก เพราะเขาจะไม่ได้อะไรเลย เรื่องนี้ร้อนไปถึงนักร้องสาว Taylor Swift ที่ออกโรงมาแบนการเอาเพลงไปวางเพื่อให้บริการฟังบน Apple Music ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
Taylor Swift เขียนบล็อกพูดถึงเรื่องนี้ในหัวข้อ To Apple, Love Taylor เนื้อหาโดยสรุปคือเธอไม่พอใจอย่างมากในการกระทำของ Apple ที่เปิดให้บริการโดยที่คนที่อยู่เบื้องหลังของเพลงทั้งหมดไม่ได้อะไรเลย (นักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง ต้องกินข้าวเหมือนกัน) และมองว่าการเปิดให้บริการแบบฟรีๆ เป็นเวลา 3 เดือนนานเกินไป จึงเป็นเหตุให้มีการประกาศจะไม่มีเพลงในอัลบั้มล่าสุดของเธอ 1989 ให้ฟังบน Apple Music
เมื่อเรื่องนี้ถึงหูของ Apple และ Eddie Cue คนดูแลในส่วนของ Apple Music เลยต้องเอามาพิจารณาและสุดท้าย Eddie ก็ทวีตด้วยข้อความที่บอกว่า ทาง Apple Music จะทำการจ่ายเงินตามปกติในช่วงที่เปิดให้คนทั่วไปทดลองใช้งาน 3 เดือน
หลังจากนั้น Taylor ก็ทำการทวีตข้อความขึ้นทันที ด้วยเนื้อหาที่แสดงถึงความโล่งใจและยินดีที่ทาง Apple ฟังเรา
สิ่งเหล่านี้บอกอะไรได้บ้าง…
เราได้เห็นการทำ Crisis Management ของ Apple ที่ทำอย่างรวดเร็วและหาทางออกที่อาจจะดูในเชิงแกมบังคับ แต่ก็เป็นทางเดียวที่ลงตัวและจบสวยที่สุด แต่ก็ต้องมองว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้อาจส่งผลด้านจิตใจกับศิลปินไม่มากก็น้อย คล้ายเป็นแผลลึกๆ ในใจว่า Apple เคยทำแบบนี้ (แต่สุดท้ายดูแล้วก็ไม่มีทางเลือกอยู่ดี)
ถ้าให้มองอีกมุมว่า คนที่โวยนั้นเป็นศิลปินโนเนม Apple เขาจะปฏิบัติอย่างรวดเร็วแบบนี้หรือเปล่า